LINE

ภาษาไทย

ข้อกำหนดการใช้งาน LINE Ads (LINE Ads Terms of Use)


บรรดาข้อกำหนดการใช้งาน LINE Ads ต่อไปนี้ (LINE Ads Terms of Use) (ต่อไปนี้เรียกว่า "ข้อกำหนดการใช้งาน") ได้ระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ สำหรับการใช้งาน LINE Ads (ต่อไปนี้เรียกว่า "การบริการฯ") ระหว่าง LY Corporation และ/หรือ บริษัทในกลุ่มตามที่ LY Corporation กำหนด (ต่อไปนี้เรียกรวมกันว่า "บริษัท") กับคู่สัญญาอีกฝ่ายที่ได้เข้าทำสัญญาบริการ ตามที่นิยามไว้ในข้อ 2(1)) (ต่อไปนี้เรียกว่า "ลูกค้า") ผู้ซึ่งตกลงยอมรับข้อกำหนดการใช้งานนี้ในนามของลูกค้าขอรับรองและรับประกันว่าตนได้รับมอบอำนาจจากลูกค้าเพื่อเข้าตกลงยอมรับข้อกำหนดการใช้งานนี้และลูกค้าตกลงยอมรับข้อกำหนดการใช้งานนี้ตามการมอบอำนาจดังกล่าว เมื่อลูกค้าเริ่มใช้การบริการฯ จะถือว่าลูกค้าได้ยอมรับข้อกำหนดการใช้งานนี้ และเมื่อลูกค้าได้จ้างเหมาช่วงส่วนหนึ่งของการใช้การบริการฯ ให้กับผู้รับเหมาช่วง ลูกค้าจะต้องได้รับความเห็นชอบจากบริษัท และดำเนินการให้ผู้รับเหมาช่วงปฏิบัติตามหน้าที่ของลูกค้าภายใต้ข้อกำหนดการใช้งานนี้ และรับผิดชอบต่อการปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวของผู้รับเหมาช่วงด้วย

ข้อ 1 (ภาพรวมของการบริการฯ)
การบริการฯ เป็นการบริการที่ลูกค้าสามารถใช้ระบบการเผยแพร่โฆษณาของบริษัทและเผยแพร่โฆษณาของตนเองหรือโฆษณาของบุคคลอื่นที่ลูกค้าได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ ให้ปรากฏบนตำแหน่งโฆษณาซึ่งจัดหาให้โดยบริษัทหรือพันธมิตรภายนอกของบริษัท เพื่อเผยแพร่ในประเทศหรือภูมิภาคตามที่บริษัทกำหนด โดยรายละเอียดของการบริการฯ ให้เป็นไปตามเอกสารสื่อ (Media Sheet) ที่บริษัทจะจัดเตรียมให้ต่างหาก

ข้อ 2 (ความสัมพันธ์ตามสัญญา)
1.คู่สัญญาฝ่ายที่มีความประสงค์ใช้การบริการฯ ซึ่งรวมถึงบริษัทตัวแทนโฆษณาที่เข้าทำสัญญากับบริษัทเพื่อหรือในนามของผู้เผยแพร่โฆษณา (ต่อไปนี้เรียกว่า“ ผู้ขอใช้บริการ”) จะต้องยอมรับข้อกำหนดการใช้งานนี้ กรอกข้อมูลที่จำเป็นใน "แบบฟอร์มใบสมัคร" ที่กำหนดโดยบริษัทแยกเป็นอีกฉบับ (ต่อไปนี้เรียกว่า "แบบฟอร์มใบสมัคร") และส่งแบบฟอร์มใบสมัครให้กับบริษัท เมื่อบริษัทยอมรับแบบฟอร์มใบสมัครดังกล่าวแล้ว ให้ถือว่าบริษัทและผู้ขอใช้บริการได้เข้าทำข้อตกลงในการบริการ (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “สัญญาบริการ”) ที่เกี่ยวข้องกับการบริการฯ และผู้ขอใช้บริการจะมีฐานะเป็นลูกค้า
2.ผู้ขอใช้บริการสามารถขอเข้าทำสัญญาบริการโดยผ่านบริษัทตัวแทนโฆษณาได้ โดยในกรณีนี้ ให้เรียกบริษัทตัวแทนโฆษณาว่าผู้ขอใช้บริการ และ/หรือ ลูกค้า (แล้วแต่กรณี)
3.บริษัทอาจปฏิเสธการขอเข้าทำสัญญาบริการหรือการให้บริการได้ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) ผู้ขอใช้บริการ/ลูกค้าเคยค้างชำระหรือบริษัทพิจารณาว่าอาจค้างชำระซึ่งค่าบริการ ค่าใช้จ่าย ค่าบริการเสริมหรือค่าปรับล่าช้าสำหรับบริการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการบริการฯ และบริการอื่นใดที่บริษัทให้บริการ
(2) บริษัทพิจารณาว่าผู้ขอใช้บริการ/ลูกค้าอาจทำให้ชื่อเสียงของการบริการฯ เสียหาย
(3) แบบฟอร์มใบสมัครมีข้อมูลเท็จหรือการสำแดงที่ไม่เป็นจริง หรือ
(4) ในกรณีที่บริษัทเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะเข้าทำสัญญาบริการหรือการให้บริการนอกเหนือจากกรณีตามข้อ (1) ถึง (3) ข้างต้น 
4.ในกรณีที่เข้าข่ายเหตุการณ์ใด ๆ ตามวรรคก่อน บริษัทอาจระงับการใช้การบริการฯ ของผู้ขอใช้บริการ/ลูกค้าหรือเลิกสัญญาบริการกับผู้ขอใช้บริการ/ลูกค้าโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือแจ้งเตือนใด ๆ หรือคืนเงินให้กับผู้ขอใช้บริการ/ลูกค้า

ข้อ 3 (ความเกี่ยวข้องของข้อกำหนดการใช้งานและเอกสารสื่อ) 
นอกเหนือจากเนื้อหาสาระที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดการใช้งานนี้แล้ว ให้รายละเอียดที่ระบุไว้ในเอกสารสื่อที่เกี่ยวข้องกับการบริการฯ มีผลบังคับใช้กับการบริการฯ ด้วย และในกรณีที่มีความขัดแย้งระหว่างข้อกำหนดการใช้งานนี้และเอกสารสื่อ ให้ถือว่าเอกสารสื่อมีลำดับของการบังคับใช้เหนือข้อกำหนดการใช้งานนี้

ข้อ 4 (การแก้ไขข้อกำหนดการใช้งานนี้และอื่น ๆ)
บริษัทอาจแก้ไขข้อกำหนดการใช้งานนี้และเอกสารสื่อได้ โดยหลังจากการแก้ไขแล้ว บริษัทจะประกาศข้อกำหนดการใช้งานและเอกสารสื่อฉบับแก้ไขเพิ่มเติมบนเว็บไซต์ของบริษัท หรือโดยการบอกกล่าวให้ลูกค้าทราบเป็นรายบุคคล หากลูกค้าใช้การบริการฯ ภายหลังจากการประกาศหรือการบอกกล่าวดังกล่าว ให้ถือว่าลูกค้าได้ตกลงยอมรับข้อกำหนดการใช้งานและเอกสารสื่อฉบับแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว

ข้อ 5 (ค่าบริการและการชำระเงิน)
1.บริษัทจะคำนวณค่าบริการสำหรับการบริการฯ และเรียกเก็บเงินค่าบริการจากลูกค้า ตามวิธีการใดวิธีการหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (1) ในวันที่บริษัทกำหนด โดยการหักบัญชีผ่านทางข้อมูลบัตรเครดิตที่ลูกค้าให้ไว้ หรือ (2) บริษัทจะทำการปิดบัญชีในวันสุดท้ายของแต่ละเดือน เพื่อคำนวณค่าบริการ ในกรณีทั่วไป บริษัทจะออกใบแจ้งหนี้หรือใบแจ้งยอดภายในสิบ (10) วันทำการของเดือนถัดไป ทั้งนี้ ตามวิธีการที่บริษัทกำหนด ลูกค้าจะต้องชำระเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้หรือใบแจ้งยอดตามวิธีการที่บริษัทกำหนดและภายในวันครบกำหนดชำระ โดยลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านธนาคาร หรือค่าธรรมเนียมใดๆ  ซึ่งเกิดจากการชำระเงินดังกล่าว บริษัทจะไม่รับผิดชอบไม่ว่าด้วยประการใด ๆ แม้ในกรณีเรียกเก็บเงินผิดพลาด อันเกิดจากกรณีที่ข้อมูลที่อยู่จัดส่งใบแจ้งหนี้หรือข้อมูลบัตรเครดิตที่ลงทะเบียนสำหรับการบริการฯ ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามกำหนดเวลาการชำระเงินอย่างเคร่งครัด หากลูกค้าชำระค่าบริการหรือค่าบริการเสริมสำหรับการบริการฯ ล่าช้า บริษัทอาจเรียกเก็บค่าปรับล่าช้าจากลูกค้าในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี (หรืออัตราสูงสุดใด ๆ ตามที่กำหนดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง) จากยอดเงินคงค้างในระหว่างที่ผิดนัด และอาจยุติหรือระงับการให้การบริการฯ แก่ลูกค้าจนกว่าจะได้รับชำระเงิน (รวมถึงค่าปรับล่าช้า) จนเต็มจำนวน
2.ในกรณีที่มีการเรียกเก็บภาษีโภคภัณฑ์ (หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม) ตามพระราชบัญญัติภาษีโภคภัณฑ์หรือกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชำระค่าบริการที่ลูกค้าต้องชำระให้กับบริษัท ลูกค้าจะต้องชำระค่าบริการพร้อมเงินในจำนวนที่เทียบเท่ากับภาษีที่เกี่ยวข้องดังกล่าว
3.บริษัทจะปัดเศษสตางค์จากการคำนวณค่าบริการหรือจำนวนเงินอื่นใดเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับจำนวนเต็มที่สุด
4.บริษัทมีสิทธิเปลี่ยนแปลงค่าบริการ และข้อกำหนดและเงื่อนไขของการบริการฯ ได้ด้วยดุลยพินิจของบริษัท โดยบริษัทจะต้องบอกกล่าวให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษร (รวมถึงการบอกกล่าวทางอีเมล) หรือประกาศการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวบนระบบการเผยแพร่โฆษณาของการบริการฯ
5.หากปรากฏว่ามีค่าบริการที่ลูกค้าชำระให้กับบริษัทเกินหรือไม่ครบถ้วน เนื่องจากการเรียกเก็บเงินลูกค้าผิดพลาดของระบบหรือโดยเหตุประการอื่นใด และลูกค้าจะต้องชำระค่าบริการให้กับบริษัทเพิ่มเติมอีก บริษัทอาจยืนยันเหตุการณ์ดังกล่าวกับลูกค้าและปรับยอดคงเหลือที่เกิดจากการชำระผิดพลาด รวมถึงการปรับยอดชำระเกินหรือที่ยังชำระไม่ครบโดยการปรับเพิ่มหรือลดค่าบริการที่ลูกค้าจะต้องชำระให้กับบริษัทในเดือนถัดจากเดือนที่บริษัทบอกกล่าวให้ลูกค้าทราบ (ในกรณีที่ลูกค้าใช้บริการของบริษัทหลายบริการ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับยอดดังกล่าวกับค่าบริการอื่น ๆ ของบริษัทนอกเหนือจากของการบริการฯ นี้) บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์เพื่อบอกกล่าวให้ลูกค้าทราบถึงสาเหตุของการเรียกเก็บเงินที่ผิดพลาดดังกล่าวเท่าที่บริษัทสามารถระบุสาเหตุได้และเจรจากับลูกค้าโดยสุจริต หากการบอกกล่าวดังกล่าวทำได้ยากเนื่องจากเหตุต่าง ๆ  เช่น บริษัทไม่สามารถระบุสาเหตุของการเรียกเก็บเงินที่ผิดพลาดได้ บริษัทไม่มีหน้าที่ต้องบอกกล่าวให้ลูกค้าทราบ

ข้อ 6 (ระยะเวลาการเผยแพร่โฆษณา)
1.ระยะเวลาการเผยแพร่โฆษณาของโฆษณาแต่ละรายการให้เป็นไปตามที่ลูกค้ากำหนดด้วยดุลยพินิจของตนเอง โดยให้กำหนดผ่านทางเว็บไซต์บริหารจัดการที่บริษัทจัดเตรียมให้
2.ในบางครั้งอาจมีกรณีที่เขตเวลาที่แสดงบนเว็บไซต์บริหารจัดการมีการกำหนดระยะเวลาการเผยแพร่โฆษณาไม่ตรงกับเขตเวลาตามที่บริษัทระบุในตารางจำนวนเงินในใบแจ้งหนี้ที่เรียกเก็บจากลูกค้าอันเนื่องมาจากการตั้งค่าของลูกค้า ลูกค้าจะไม่คัดค้านใด ๆ ในความไม่ตรงกันดังกล่าว
3.ในกรณีที่มียอดเงินคงเหลือในงบประมาณแคมเปญของโฆษณาแต่ละรายการ บริษัทอาจเรียกเก็บค่าบริการภายในรอบภายหลังจากที่ระยะเวลาการเผยแพร่โฆษณาสิ้นสุดลง ในระหว่างที่แคช (Cache) ของโฆษณาแต่ละรายการยังคงมีและเผยแพร่อยู่บนเครื่องปลายทาง (Terminal) หรืออุปกรณ์อื่นของผู้ใช้บริการ (ต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้ใช้บริการ”)

ข้อ 7 (การตรวจสอบสิทธิ์ที่เกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาที่นำเสนอ)
1.ลูกค้าจะต้องเป็นผู้จัดเตรียมเนื้อหาที่นำเสนอเพื่อเผยแพร่ในการบริการฯ และตรวจสอบสิทธิ์ (ซึ่งรวมถึงการชำระค่าตอบแทนให้กับหน่วยงานจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ เช่น JASRAC) ที่เกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาที่จะนำไปเผยแพร่ยังช่องทางที่กำหนดในเนื้อหาที่นำเสนอ (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ชื่อโดเมน ตำแหน่งที่อยู่ของเว็บ (URL) เว็บไซต์ภายในโดเมนเดียวกัน และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ช่องทางที่กำหนด”) ด้วยค่าใช้จ่ายและความรับผิดชอบของลูกค้าเอง และลูกค้าจะอนุญาตให้สิทธิที่จำเป็นแก่บริษัทโดยไม่จำกัดระยะเวลาและไม่มีค่าตอบแทนสำหรับการจัดแสดงเนื้อหาที่นำเสนอ
ในการบริการฯ บนสื่อที่บริหารจัดการโดยการบริการฯ 
2.ลูกค้าจะต้องอนุญาตให้สิทธิโดยไม่จำกัดระยะเวลาและไม่มีค่าตอบแทนแก่บริษัทในการทำซ้ำ วิเคราะห์และตรวจสอบเนื้อหาที่นำเสนอที่ใช้ในการบริการฯ โดยบริษัทในเครือทั้งภายในประเทศและต่างประเทศของ LY Corporation และบริษัทผู้รับเหมาช่วงโดย LY Corporation เพื่อยืนยันว่าเนื้อหาที่นำเสนอนั้นไม่ได้ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น เพื่อตรวจยืนยันความเหมาะสมของเนื้อหาสาระของเนื้อหาที่นำเสนอ เพื่อปรับปรุงความสะดวกในการใช้งานของลูกค้า หรือเพื่อปรับปรุงเนื้อหาของการบริการฯ 

ข้อ 8 (ความรับผิดชอบของลูกค้า)
1.ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นผู้เผยแพร่โฆษณาเองหรือไม่ก็ตาม ลูกค้าขอรับประกันกับบริษัทว่าบรรดาเนื้อหาที่นำเสนอและช่องทางที่กำหนดนั้น (ก) ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ สิทธิในทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม สิทธิในชื่อเสียงของบุคคล สิทธิส่วนบุคคลหรือสิทธิอื่นใดของบุคคลภายนอก (ข) ไม่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติยาและเครื่องมือแพทย์ (Pharmaceutical and Medical Device Act) กฎหมายการให้รางวัลและการแสดงสรรพคุณที่ไม่เป็นธรรม (Act against Unjustifiable Premiums and Misleading Representations) หรือกฎหมายและกฎเกณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (นอกเหนือจากกฎหมายของประเทศที่ลูกค้าตั้งอยู่ตลอดจนกฎหมายของประเทศที่จะเผยแพร่โฆษณา) (ค) ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ไม่ทำให้ผู้ใช้บริการหลงผิด ไม่มีไวรัสคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลเท็จ และเนื้อหาที่นำเสนอและช่องทางที่กำหนดไม่เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกัน (ง) ไม่เป็นลิงก์ที่ใช้งานไม่ได้ และ (จ) ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมของประชาชน ไม่เป็นการหมิ่นประมาทบุคคลอื่นใด หรือมีเนื้อหาสาระที่ทำให้บุคคลอื่นใดเสื่อมเสียชื่อเสียง
2.หากบริษัทได้รับข้อร้องเรียนหรือข้อเรียกร้องจากบุคคลภายนอกเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่นำเสนอหรือช่องทางที่กำหนด ลูกค้าจะต้องจัดการข้อร้องเรียนหรือข้อเรียกร้องดังกล่าวด้วยความรับผิดชอบและภาระค่าใช้จ่ายของตนเอง นอกจากนี้ ในกรณีที่บริษัทได้รับความเสียหายใด ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาที่นำเสนอหรือช่องทางที่กำหนด ลูกค้าจะต้องชดใช้เยียวยาความเสียหายดังกล่าวที่เกิดขึ้นแก่บริษัทโดยทันที (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผลกำไรที่สูญเสีย ความเสียหายพิเศษและค่าทนายความตามความเหมาะสม)

ข้อ 9 (มาตรฐานการคัดกรองโฆษณา)
1.เนื้อหาและรูปแบบของเนื้อหาที่นำเสนอและช่องทางที่กำหนดต้องเป็นไปตามมาตรฐานการคัดกรองโฆษณาที่กำหนดโดย บริษัทหรือแนวทางปฏิบัติอื่น ๆ (ต่อไปนี้เรียกรวมกันว่า “แนวปฏิบัติในการเผยแพร่โฆษณา”) อย่างไรก็ตาม แนวปฏิบัติในการเผยแพร่โฆษณานั้นไม่ได้จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้คำแนะนำทางกฎหมาย ลูกค้าจะต้องตรวจยืนยันและปฏิบัติตามบรรดากฎหมาย กฎเกณฑ์และข้อบัญญัติทั้งหมดที่บังคับใช้กับโฆษณาที่เสนอด้วยความรับผิดชอบของตนเอง
2.บริษัทจะดำเนินการรวบรวมข้อมูลที่อยู่บนเว็บไซต์ (URL) ที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาที่ลูกค้านำเสนอเพื่อตรวจสอบว่าเนื้อหาที่เผยแพร่ของลูกค้าเป็นไปตามแนวปฏิบัติในการเผยแพร่โฆษณา โดยลูกค้าตกลงยอมรับล่วงหน้าว่าหากบริษัทไม่สามารถดำเนินการรวบรวมข้อมูลได้ ลูกค้าอาจไม่สามารถเผยแพร่โฆษณาได้ในบางกรณี และลูกค้าตกลงยืนยันว่าจะไม่แก้ไขเนื้อหาที่เผยแพร่ เฉพาะในขณะที่บริษัทดำเนินการรวบรวมข้อมูล บริษัทจะไม่รับผิดชอบไม่ว่าด้วยประการใดในความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นแก่ลูกค้าจากการรวบรวมข้อมูลดังกล่าว

ข้อ 10 (การคัดกรองเนื้อหาที่นำเสนอและช่องทางที่กำหนด)
บริษัทจะคัดกรองเนื้อหาและรูปแบบของเนื้อหาที่นำเสนอและช่องทางที่กำหนดตามที่บริษัทกำหนดในแนวปฏิบัติในการเผยแพร่โฆษณา เนื้อหาที่นำเสนอจะไม่ได้รับการเผยแพร่โฆษณาจนกว่าเนื้อหาที่นำเสนอและช่องทางที่กำหนดจะผ่านการตรวจคัดกรองก่อน ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับเนื้อหาหรือรูปแบบของเนื้อหาที่นำเสนอหรือช่องทางที่กำหนดไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนภายหลังจากที่ผ่านการตรวจคัดกรองแล้ว เนื้อหาที่นำเสนอและช่องทางที่กำหนดจะต้องผ่านการคัดกรองตามที่บริษัทกำหนดอีกครั้ง โดยการตรวจคัดกรองนี้ไม่ถือเป็นการรับประกันซึ่งความถูกต้องตามกฎหมาย ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ประสิทธิผล ความเหมาะสมแก่การใช้ประโยชน์เฉพาะอย่าง หรือการปราศจากข้อบกพร่องใด ๆ ที่เกิดขึ้นจริงหรือข้อบกพร่องตามกฎหมาย เช่น ข้อบกพร่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัย ความผิดพลาดหรือจุดบกพร่อง หรือการละเมิดสิทธิ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเนื้อหาที่นำเสนอหรือเนื้อหาของช่องทางที่กำหนด

ข้อ 11 (การระงับการเผยแพร่โฆษณา)
แม้ภายหลังจากที่บริษัทดำเนินการตรวจคัดกรองเนื้อหาและรูปแบบของเนื้อหาที่นำเสนอและช่องทางที่กำหนดตามที่บริษัทกำหนดในแนวปฏิบัติในการเผยแพร่โฆษณาแล้ว (1) หากปรากฏว่าลูกค้าฝ่าฝืนภาระผูกพันการรับประกันใด ๆ หรือข้อกำหนดให้ปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดการใช้งานนี้ หรือหากบริษัทพิจารณาด้วยดุลยพินิจของตนเองแล้วเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการฝ่าฝืนดังกล่าวขึ้น หรือ (2) ในสถานการณ์ที่การเผยแพร่เนื้อหาที่นำเสนอหรือช่องทางที่กำหนดในฐานะสื่อโฆษณานั้นถูกพิจารณาว่าไม่เหมาะสมโดยดุลยพินิจของบริษัทอันเนื่องมาจากปัจจัยทางสังคม แม้จะเกิดขึ้นภายหลังจากการเริ่มต้นเผยแพร่โฆษณาที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่นำเสนอไปแล้วก็ตาม บริษัทอาจระงับการเผยแพร่โฆษณาทั้งหมดหรือบางส่วนได้โดยทันทีด้วยดุลยพินิจของบริษัทเอง โดยไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อการผิดนัด ความเสียหายใด ๆ หรือความรับผิดทางกฎหมายอื่นใดต่อลูกค้า ทั้งนี้ในกรณีดังกล่าว ลูกค้าจะไม่ได้รับยกเว้นการชำระค่าบริการที่เกิดขึ้นและเกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาที่นำเสนอ

ข้อ 12 (ความไม่ต่อเนื่องของการบริการฯ)
บริษัทอาจหยุดให้การบริการฯ ทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นการชั่วคราวได้หากเกิดกรณีใด ๆ ดังต่อไปนี้
(1) การบำรุงรักษาระบบหรืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการบริการฯ
(2) ความล้มเหลวของระบบหรืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการบริการฯ หรือ
(3) กรณีที่ไม่สามารถใช้บริการโทรคมนาคมได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตามที่เกิดขึ้นโดยบริษัทโทรคมนาคม

ข้อ 13 (การระงับการบริการฯ)
บริษัทอาจระงับการใช้การบริการฯ ของลูกค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวใด ๆ ให้ทราบล่วงหน้าในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ใด ๆ ดังต่อไปนี้ขึ้นกับลูกค้า
(1) ลูกค้าไม่ชำระค่าบริการจากการใช้การบริการฯ เมื่อถึงกำหนดชำระ
(2) ลูกค้าส่งมอบ ให้ยืมหรือแบ่งปันบัญชีการใช้งานของตนหรือเว็บไซต์บริหารจัดการสำหรับการใช้การบริการฯ ด้วยวิธีการที่บริษัทไม่ได้กำหนด
(3) ลูกค้าละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม ลิขสิทธิ์ หรือสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอื่นใดของบุคคลอื่น
(4) ลูกค้าฝ่าฝืนกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องและใช้บังคับกับการใช้การบริการฯ ซึ่งรวมถึงรัฐธรรมนูญ สนธิสัญญาระหว่างประเทศ กฎหมายและกฎเกณฑ์ระดับประเทศ และข้อบัญญัติท้องถิ่นต่าง ๆ
(5) ลูกค้ากรอกข้อมูลที่เป็นเท็จ ไม่เป็นความจริง หรือข้อมูลที่จงใจให้เข้าใจผิดในแบบฟอร์มใบสมัคร
(6) ลูกค้าเผยแพร่ข้อมูลที่มีข้อมูลเท็จหรือข้อมูลปลอม
(7) ลูกค้าเผยแพร่ข้อมูลที่ละเมิดแนวปฏิบัติในการเผยแพร่โฆษณา
(8) ลูกค้าจัดหาหรือขายต่อซึ่งตำแหน่งโฆษณาตามการบริการฯ นี้ ให้แก่บุคคลภายนอก
(9) ลูกค้าเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวเนื่องหรือไม่มีความสัมพันธ์กันกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของลูกค้า (หรือในกรณีของบริษัทตัวแทนโฆษณา ให้หมายถึงข้อมูลที่ไม่เกี่ยวเนื่องหรือไม่มีความสัมพันธ์กันกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของผู้โฆษณาซึ่งได้มอบหมายให้ลูกค้าลงโฆษณา) หรือข้อมูลที่อาจนำผู้ใช้ไปสู่ช่องทางที่กำหนดซึ่งไม่มีความเกี่ยวเนื่องหรือความสัมพันธ์กัน
(10) ลูกค้ากระทำการที่ทำให้บริษัทหรือลูกค้าของบริษัทเสียเปรียบหรือเสื่อมเสีย
(11) ลูกค้ากระทำการที่บริษัทเห็นว่าผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสม
(12) ลูกค้ากระทำการที่ส่งผลหรือที่บริษัทพิจารณาว่าอาจส่งผลให้เกิดการแทรกแซงอย่างมีนัยสำคัญกับกิจการของบริษัท หรือการให้การบริการฯ หรือการดำเนินการใด ๆ ของการบริการฯ หรือ
(13) บุคคลภายนอกผู้ดำเนินการและให้บริการตลาดแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์พกพาที่ใช้สำหรับการบริการฯ ซึ่งได้แก่ Apple Inc. และ Google Inc. (ต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม”) กำหนดให้บริษัทต้องระงับการบริการฯ ทั้งหมดหรือบางส่วน

ข้อ 14 (การยุติการบริการฯ)
1.บริษัทอาจยุติการบริการฯ ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ตามที่บริษัทเห็นสมควร
2.ในกรณีที่บริษัทจะยุติการบริการฯ บริษัทจะต้องบอกกล่าวให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าสาม (3) เดือน โดยการประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัท หรือโดยการบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งรวมถึงการบอกกล่าวทางอีเมล
3.ในกรณีที่การบริการฯ ทั้งหมดหรือบางส่วนถูกยกเลิกลงตามสองวรรคข้างต้น ให้สัญญาบริการสิ้นสุดลงพร้อมกัน ณ วันที่ยุติการให้การบริการฯ ดังกล่าว

ข้อ 15 (การเลิกสัญญาบริการ)
1.ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ใด ๆ ในข้อ 13 (การระงับการบริการฯ) ขึ้นกับลูกค้า บริษัทอาจบอกเลิกสัญญาบริการกับลูกค้าได้ทันทีโดยการบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรให้ลูกค้าทราบ พร้อมทั้งระงับการบริการฯ ตามข้อ 13 หรือไม่ระงับก็ตาม
2.บริษัทหรือลูกค้าอาจบอกเลิกสัญญาบริการได้ทันทีโดยการบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งทราบ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ พนักงาน ตัวแทน หรือนายหน้า (ต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้ที่เกี่ยวข้อง”) ของคู่สัญญาอีกฝ่ายถูกพบว่าเป็นกลุ่มกองกำลังต่อต้านสังคม (เช่น กลุ่มอาชญากรรม สมาชิก ผู้เป็นกึ่งสมาชิก หรือบริษัทในเครือของกลุ่มอาชญากรรม องค์กรอาชญากรรม องค์กรอาชญากรรมทางการเมือง กลุ่มอาชญากรรมทางปัญญา และองค์กรหรือบุคคลอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน) หรือผู้ที่เกี่ยวข้องของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งถูกพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มกองกำลังต่อต้านสังคมดังกล่าว
3.ในกรณีที่มียอดเงินที่ยังไม่ได้ใช้คงเหลือในบัญชีของลูกค้ารายที่ถูกบอกเลิกสัญญาบริการตามวรรค 1 ของข้อนี้ บริษัทจะ
คืนเงินดังกล่าวให้กับลูกค้าตามวิธีการที่บริษัทกำหนด อย่างไรก็ตาม หากบริษัทร้องขอให้ลูกค้ากำหนดบัญชีที่จะรับคืนยอดเงินคงเหลือภายในเวลาที่บริษัทจะกำหนด แต่ลูกค้าไม่สามารถกำหนดบัญชีเพื่อรับคืนเงินดังกล่าวได้ หรือหากบริษัทไม่สามารถคืนยอดเงินคงเหลือไปยังบัญชีที่ลูกค้ากำหนดเนื่องจากเหตุผลต่าง ๆ ที่ไม่เกิดจากบริษัท บริษัทอาจเก็บเงินจำนวนดังกล่าวไว้ได้ โดยลูกค้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการโอนเงินทางธนาคารที่จำเป็นสำหรับการโอนยอดเงินคงเหลือคืน
4.การคืนยอดเงินคงเหลือตามที่กำหนดไว้ในวรรคก่อนจะดำเนินการหลังจากหักเงินและหักกลบยอดเงินคืนดังกล่าวกับบรรดาหนี้ทั้งหมดที่ลูกค้าต้องชำระให้บริษัทจากการบริการฯ นี้หรือบริการอื่น ๆ (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงค่าบริการและค่าเสียหายต่าง ๆ) แล้ว
5.ในกรณีที่การประกาศโฆษณาระหว่างบริษัทกับลูกค้าสิ้นสุดลง และลูกค้าไม่ประสงค์ใช้การบริการฯ อีกต่อไป หากมียอดเงินใด ๆ ที่ยังไม่ได้ใช้คงเหลืออยู่ในบัญชีของลูกค้า บริษัทจะคืนยอดเงินดังกล่าวให้กับลูกค้าเมื่อลูกค้าร้องขอ ตามหลักโดยทั่วไปบริษัทจะเป็นผู้รับภาระค่าธรรมเนียมการโอนเงินทางธนาคารที่จำเป็นสำหรับการโอนยอดเงินคงเหลือคืน แต่หากยอดเงินคงเหลือเกิดจากเหตุของลูกค้าเอง ในบางกรณีบริษัทอาจร้องขอให้ลูกค้าเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมการโอนเงินทางธนาคารได้

ข้อ 16 (ไลน์แท็ก (LINE Tag))
“ไลน์แท็ก (LINE Tag)” หมายถึง รหัสเว็บไซต์ที่บริษัทจัดทำขึ้นเพื่อตรวจนับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าชมและประวัติการดำเนินการของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่บริหารและจัดการโดยบุคคลอื่นนอกเหนือจากบริษัท โดยลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามแนวปฏิบัติในการใช้งานไลน์แท็ก (LINE Tag Guidelines) เมื่อใช้งานไลน์แท็ก (LINE Tag)

ข้อ 17 (การจัดการข้อมูลผู้เข้าชม)
1.ลูกค้าอาจใช้งานฟังก์ชันในการเผยแพร่โฆษณาให้กับผู้ใช้บริการโดยเจาะจงในการบริการฯ ได้โดยการนำส่งข้อมูลระบุตัวตน เช่น รหัสโฆษณาแอนดรอยด์ (Android Advertising ID) และตัวระบุโฆษณา (IDFA) ที่ลูกค้ามีอยู่ (ต่อไปนี้เรียกว่า "รหัสโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือ”) และข้อมูลในการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์และที่อยู่อีเมล (ต่อไปนี้เรียกว่า "ข้อมูลในการติดต่อ") ให้กับบริษัท หรือใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าชมและประวัติการดำเนินการที่ส่งให้กับบริษัทโดยใช้ไลน์แท็ก (LINE Tag) หรือเครื่องมือของบุคคลอื่น (โดยต่อไปนี้เรียก “รหัสโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือ” และ “ข้อมูลในการติดต่อ” รวมกันว่า “ข้อมูลผู้เข้าชม”) เมื่อลูกค้าให้คำมั่นตามเรื่องต่อไปนี้
(1.)จำนวนช่องทางการเผยแพร่โฆษณาในขณะที่กำหนดข้อมูลผู้เข้าชมจะต้องมากกว่าจำนวนที่กำหนดในเอกสารสื่อ (Media Sheet)
(2.)เมื่อลูกค้าจะเผยแพร่โฆษณาโดยการกำหนดข้อมูลในการติดต่อ ลูกค้าจะต้องแปลงข้อมูลในการติดต่อ และส่งข้อมูลดังกล่าวกับบริษัทด้วยความรับผิดชอบของตนเองตามวิธีการที่บริษัทจะกำหนด
(3.)ลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายทั้งหมดที่บังคับใช้ (รวมถึงแนวทางปฏิบัติต่าง ๆ) ในการใช้การบริการฯ ด้วยการใช้ข้อมูลผู้เข้าชมที่จะนำส่งหรือที่ได้นำส่งให้แล้ว
(4.)ลูกค้ารับรองและรับประกันในทุกเรื่องต่อไปนี้กับบริษัทในการใช้งานฟังก์ชันการใช้ข้อมูลผู้เข้าชม (Audience Data Usage Function)
(ก) ลูกค้าจะรับข้อมูลผู้เข้าชมจากผู้ถือข้อมูลผู้เข้าชมดังกล่าวด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร หรือดำเนินการให้ผู้ให้บริการจัดหาเครื่องมือขอรับและส่งความยินยอมดังกล่าวให้แก่บริษัท และ
(ข) ลูกค้าได้รับอนุญาตด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ถือข้อมูลผู้เข้าชมในการเผยแพร่โฆษณาด้วยการใช้การบริการฯ และการใช้ข้อมูลผู้เข้าชมเป็นกุญแจสำคัญ
(5.)ลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามการเลือกไม่เข้าร่วมรับการเผยแพร่โฆษณาโดยการกำหนดพฤติกรรม (Behavior Targeting Ad Distribution) ตามการตั้งค่าของเครื่องปลายทาง (Terminal) หรือเบราว์เซอร์ หรือวิธีการที่ลูกค้ากำหนดโดยอิสระ และรับรองว่าข้อมูลผู้เข้าชมของบุคคลผู้เลือกไม่เข้าร่วมดังกล่าวจะไม่ถูกนำไปรวมกับข้อมูลผู้เข้าชมที่ลูกค้ากำหนดในขณะที่ใช้งานฟังก์ชันการใช้ข้อมูลผู้เข้าชม (Audience Data Usage Function) นอกจากนี้ ในกรณีที่บริษัทกำหนดผู้ใช้บริการรายที่ใช้สิทธิเลือกไม่เข้าร่วมรับการเผยแพร่โฆษณาโดยการกำหนดพฤติกรรม ตามการตั้งค่าของเครื่องปลายทาง (Terminal) หรือเบราว์เซอร์ หรือวิธีการที่บริษัทกำหนดโดยอิสระ ลูกค้ารับทราบล่วงหน้าว่าแม้ในกรณีที่ข้อมูลผู้เข้าชมของผู้ใช้บริการรายดังกล่าวจะถูกรวมอยู่ในข้อมูลผู้เข้าชมที่กำหนดโดยลูกค้าไว้แล้ว ข้อมูลผู้เข้าชมดังกล่าวจะถูกลบออกจากผู้รับการเผยแพร่ในขณะที่ใช้งานฟังก์ชันการใช้ข้อมูลผู้เข้าชม (Audience Data Usage Function)
(6.)ลูกค้ารับทราบล่วงหน้าว่าในบางกรณีอาจไม่สามารถเผยแพร่โฆษณาให้กับผู้ถือข้อมูลผู้เข้าชมหรือในกรณีที่เผยแพร่โฆษณาให้กับบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้ถือข้อมูลผู้เข้าชมที่ลูกค้ารับทราบ (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงกรณีที่เป็นข้อผิดพลาดจากข้อมูลการติดต่อที่ลูกค้ามีและกรณีที่ข้อมูลการติดต่อที่ลูกค้ามีกับข้อมูลการติดต่อที่บริษัทมีไม่ตรงกัน) บริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นแก่ลูกค้าไม่ว่าด้วยประการใดก็ตาม
2.บริษัทจะใช้ข้อมูลในการติดต่อและรหัสโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือ ที่ลูกค้าส่งมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการคัดเลือกกลุ่มมุ่งหมายในการเผยแพร่โฆษณา โดยจับคู่กับข้อมูลที่บริษัทมีอยู่แล้ว โดยข้อมูลในการติดต่อและรหัสโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือ (เว้นแต่ข้อมูลที่บริษัทมีอยู่แล้ว) จะถูกลบออกจากสภาพแวดล้อมของบริษัท ภายหลังดำเนินการจับคู่ดังกล่าวเสร็จสิ้นลง 
3. หากลูกค้าส่งข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง รหัสโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ และตัวบ่งชี้ภายในของผู้ใช้บริการ) ลูกค้าต้องยอมรับล่วงหน้าว่าบริษัทจะดำเนินการกับข้อมูลที่ลูกค้าส่งมา ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ที่ลูกค้าส่งมาจะถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการคัดเลือกเป้าหมายของการเผยแพร่โฆษณา โดยการจับคู่กับข้อมูลที่บริษัทมีอยู่แล้ว ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนดังกล่าวจะถูกลบออกจากสภาพแวดล้อมของบริษัทภายหลังการจับคู่ได้เสร็จสิ้นลง (เว้นแต่ข้อมูลที่บริษัทมีอยู่แล้ว)
(2) การจับคู่ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ตามที่กล่าวไว้ในข้อก่อนหน้าจะถูกดำเนินการโดยใช้ข้อมูลที่บริษัทมีอยู่แล้วเท่านั้น โดยบริษัทได้รับความยินยอมล่วงหน้าให้บริษัทสามารถใช้ข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวได้จากบุคคลดังกล่าวแล้ว
(3) บริษัทจะไม่รับข้อมูลส่วนตัวของข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ใดๆ ที่ไม่สามารถจับคู่ได้ตาม (1) และจะลบข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ดังกล่าว
4. ลูกค้าต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมาย กฎเกณฑ์ คำสั่ง และข้อแนะนำอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการจัดการข้อมูล เช่น การได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากตัวการในการส่งข้อมูลดังกล่าวให้แก่บริษัท รวมถึงข้อมูลส่วนตัวด้วย

ข้อ 18 (การทดสอบเบต้าแบบเปิด(Open Beta Test))
1.บริษัทอาจใช้ดุลพินิจของตนจัดเตรียมเวอร์ชันทดสอบเบต้า (ต่อไปนี้เรียกว่า "เวอร์ชันทดสอบเบต้า (Beta Version)") ให้กับลูกค้าที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด ก่อนการเปิดตัวระบบการใช้งานใหม่ อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่จำเป็นต้องจัดเตรียมเวอร์ชันทดสอบเบต้า (Beta Version) หรือระบบการใช้งานใหม่ใด ๆ ให้กับลูกค้าตามที่ปรากฏในเวอร์ชันทดสอบเบต้า (Beta Version)
2.แม้ในกรณีที่บริษัทจัดเตรียมเวอร์ชันทดสอบเบต้า (Beta Version) ให้กับลูกค้า บริษัทอาจระงับการให้บริการเวอร์ชันทดสอบเบต้า (Beta Version) ทั้งหมดหรือบางส่วนได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า
3.ความเร็วและประสิทธิภาพของการเผยแพร่โฆษณาอาจผันผวนได้ในกรณีที่ลูกค้าใช้งานในเวอร์ชันทดสอบเบต้า (Beta Version)
4.บริษัทไม่รับประกันไม่ว่าด้วยกรณีใดและจะไม่รับผิดชอบไม่ว่าด้วยประการใด ๆ ว่าปริมาณการเผยแพร่โฆษณาจะต้องเพิ่มขึ้นหรือประสิทธิภาพการเผยแพร่โฆษณาจะต้องถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นจากการที่ลูกค้าใช้งานเวอร์ชันทดสอบเบต้า (Beta Version)
5.ลูกค้าจะใช้งานเวอร์ชันทดสอบเบต้า (Beta Version) ได้หลังจากตกลงยอมรับข้อกำหนดในสี่วรรคก่อนหน้านี้แล้ว

ข้อ 19 (ข้อจำกัดความรับผิดที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่โฆษณา)
1.บริษัทไม่รับประกันไม่ว่าด้วยประการใดว่าการบริการฯ นี้จะปราศจากความผิดพลาด จุดบกพร่อง หรือปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ โดยปัญหาต่าง ๆ อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในกรณีเช่น โฆษณาที่ถูกเผยแพร่ไปไม่ได้ถูกจัดแสดงให้เห็น เนื้อหาของโฆษณาที่ถูกเผยแพร่นั้นจัดแสดงในรูปแบบที่แตกต่างจากเนื้อหาโฆษณาต้นฉบับ โฆษณาถูกเผยแพร่ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างจากกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือข้อมูลที่แสดงนั้นไม่ถูกต้อง โดยลูกค้าจะต้องตระหนักถึงสถานการณ์ดังกล่าวในทุกประการและลูกค้าจะต้องไม่ดำเนินการทางกฎหมายใด ๆ กับบริษัทให้รับผิดชอบ แม้ในกรณีที่ระบบการเผยแพร่โฆษณาไม่ทำงานตามปกติและการเผยแพร่โฆษณานั้นไม่ได้ดำเนินการตามกำหนดก็ตาม เว้นแต่ในกรณีที่เกิดจากการจงใจกระทำการโดยบริษัท
2.ลูกค้ายอมรับว่าบริษัทอาจทดสอบการเผยแพร่หรือเผยแพร่โฆษณาโดยพิจารณาจากข้อมูลอื่นที่ไม่ใช่ข้อมูลมาตรฐานสำหรับการเผยแพร่โฆษณา (Standard Ad Distribution Logic) ไปยังการเข้าชม (Traffic) บางประการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงคุณภาพของข้อมูลการเผยแพร่โฆษณา (Ad Distribution Logic) ของการบริการฯ ได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวให้ลูกค้าทราบเพิ่มเติมอีก และลูกค้ารับทราบว่าบริษัทอาจคิดรวมค่าบริการการเผยแพร่โฆษณาดังกล่าวไว้ในค่าบริการที่จะเรียกเก็บจากการใช้การบริการฯ ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 5
3. ลูกค้ารับทราบว่าบริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อกรณีที่โฆษณาซึ่งเผยแพร่ในการบริการฯ ถูกโพสต์ประกาศหรือถูกกดคลิกโดยผิดพลาดเนื่องมาจากสาเหตุที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท และจะไม่ให้ส่วนลดหรือคืนเงินค่าการบริการฯ ในกรณีดังกล่าว

ข้อ 20 (ข้อจำกัดความรับผิดของบริษัท)
1.คุณลักษณะ (Deemed Attribute) ที่นำมาใช้ในการกำหนดเป้าหมายนั้นถูกประมาณการโดยอ้างอิงตามอัลกอริทึมอิสระ (Independent Algorithm) ที่บริษัทกำหนดโดยใช้การวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้บริการต่าง ๆ ของบริษัท และบริษัทไม่รับประกันว่ากลุ่มเป้าหมายจะมีลักษณะตรงตามคุณลักษณะดังกล่าว
2.บริษัทไม่รับประกันไม่ว่าด้วยกรณีใดและจะไม่รับผิดชอบไม่ว่าด้วยประการใด ๆ ใน (ก) เนื้อหาที่นำเสนอและช่องทางที่กำหนด (ข) การกระทำใด ๆ ของบุคคลอื่น ซึ่งรวมถึงผู้ใช้บริการของบริษัท ในประการที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่นำเสนอและช่องทางที่กำหนด (ค) ข้อเสนอและรายการใด ๆ ทั้งหมดที่จัดเตรียมโดยหรือเช่าจากบริษัทให้แก่ลูกค้าในการเผยแพร่โฆษณา (ซึ่งรวมถึงคำแนะนำ ข้อเสนอ การคาดคะเนใด ๆ และข้อมูลอื่นใดที่บริษัทจัดเตรียมให้ลูกค้า) และผลลัพธ์จากการใช้รายการต่าง ๆ ดังกล่าว และ (ง) สถานที่เผยแพร่โฆษณา คุณภาพ (รวมถึงจำนวนคนที่รับการเผยแพร่โฆษณาและผลการเผยแพร่โฆษณา) และความแม่นยำของฟังก์ชันในการกำหนดเป้าหมาย
3.บริษัทจะไม่รับผิดชอบไม่ว่าด้วยประการใดในบางกรณีที่เนื้อหาของโฆษณาอาจแสดงไม่ถูกต้องหรือไม่ได้ถูกส่งไปยังช่องทางที่กำหนดเมื่อกดคลิก แม้ว่าระบบการเผยแพร่โฆษณาจะทำงานตามปกติอยู่ก็ตาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของผู้ใช้บริการ เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน หรือการตั้งค่า หรือสภาพแวดล้อมอื่น ๆ 
4.บริษัทจะไม่รับผิดชอบไม่ว่าด้วยประการใดในความเสียหายอื่นใดที่เกิดจากความผิดพลาดในการตั้งค่าของลูกค้าหรือบุคคลอื่น
5.ในกรณีที่ต้องใช้อัตราแลกเปลี่ยน ให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามที่บริษัทกำหนด ณ เวลาที่บริษัทเป็นผู้กำหนดได้เองโดยลูกค้าจะไม่โต้แย้งใด ๆ ในอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวและบริษัทจะไม่รับผิดชอบไม่ว่าด้วยประการใดก็ตามในความเสียหายหรือความเสียเปรียบที่ลูกค้าได้รับผลกระทบ

ข้อ 21 (เหตุสุดวิสัย)
บริษัทจะไม่รับผิดชอบไม่ว่าด้วยประการใดแม้ในกรณีที่โฆษณาซึ่งได้กำหนดเวลาให้เผยแพร่ ไม่สามารถเผยแพร่ได้หรือไม่ถูกเผยแพร่อย่างเหมาะสม อันเนื่องจากเหตุภัยพิบัติ ความล้มเหลวในการสื่อสาร หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ การเจาะเข้าระบบ (Hacking) หรือการเจาะเข้าระบบเพื่อกระทำความผิด (Cracking) โดยบุคคลอื่น ความล้มเหลวของโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตหรือเซิร์ฟเวอร์ของลูกค้า หรือเหตุอื่นใดที่ไม่ได้เกิดจากบริษัท หรือมาตรการต่าง ๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อให้การบริการฯ เช่น การบำรุงรักษาระบบในกรณีฉุกเฉินหรือการตรวจสอบการบำรุงรักษา

ข้อ 22 (การรักษาความลับ)
1.ลูกค้าจะต้องเก็บรักษาข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยให้แก่ลูกค้าและบริษัทกำหนดว่าให้เป็นความลับ (ต่อไปนี้เรียกว่า “ข้อมูลที่เป็นความลับ”) ไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด
2.ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเปิดเผยให้แก่ลูกค้าตามสัญญาบริการถือเป็นข้อมูลที่เป็นความลับ โดยบริษัทและลูกค้าจะต้องใช้ความพยายามตามสมควรเพื่อป้องกันการเปิดเผย การปลอมแปลง หรือการดักฟังใด ๆ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
3.ในกรณีที่ลูกค้าทราบถึงการเปิดเผย การปลอมแปลง หรือการดักฟังใด ๆ ซึ่งข้อมูลที่เป็นความลับ ลูกค้าจะต้องรายงานให้บริษัททราบทันทีเป็นลายลักษณ์อักษร รวมถึงทางอีเมล
4.ลูกค้าไม่อาจเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับให้แก่บุคคลภายนอก โดยไม่ได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทล่วงหน้าก่อน อย่างไรก็ตามข้อมูลดังต่อไปนี้ไม่เป็นข้อมูลที่เป็นความลับ
(1) ข้อมูลที่ลูกค้าทราบอยู่แล้วก่อนการเปิดเผย
(2) ข้อมูลที่สาธารณชนทราบอยู่แล้วหรือเปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นการทั่วไป
(3) ข้อมูลที่ลูกค้าได้รับมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากบุคคลภายนอกโดยไม่มีภาระหน้าที่ในการรักษาความลับ หรือ
(4) ข้อมูลที่บริษัทได้ตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรว่ามิให้ถือรวมเป็นข้อมูลที่เป็นความลับ
5. ในกรณีที่ลูกค้าจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ กฎว่าด้วยการแลกเปลี่ยนตราสารทางการเงิน (Financial Instruments Exchange) หรือกฎเกณฑ์อื่นใดที่เทียบเท่ากับกฎดังกล่าว (ต่อไปนี้เรียกรวมกันว่า “กฎหมายฯ”) ให้เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับใด ๆ ที่บริษัทเปิดเผยให้ทราบ ลูกค้าจะต้องบอกกล่าวให้บริษัททราบถึงข้อกำหนดดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรโดยทันที อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถบอกกล่าวให้บริษัททราบล่วงหน้าได้เนื่องจากข้อกำหนดของบทบัญญัติกฎหมายฯ หรือข้อจำกัดทางด้านเวลา ลูกค้าอาจบอกกล่าวให้บริษัททราบในภายหลังได้ ในกรณีที่ลูกค้าต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับตามบทบัญญัติในวรรคนี้ ลูกค้าสามารถเปิดเผยได้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น โดยไม่คำนึงถึงบทบัญญัติในวรรค 1 ของข้อนี้ อย่างไรก็ตาม หากบริษัทให้วิธีการรักษาความลับข้อมูลที่เป็นความลับแก่ลูกค้าในการเปิดเผยดังกล่าว ลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามคำขอดังกล่าวเท่าที่เป็นไปได้ภายใต้ขอบเขตกฎหมายที่ใช้บังคับและในระดับที่เป็นไปได้ในการปฏิบัติงานของลูกค้า 
6.ในกรณีที่สัญญาบริการสิ้นสุดลงหรือเมื่อได้รับการร้องขอจากบริษัทในระหว่างระยะเวลาของสัญญาบริการ ลูกค้าจะต้องส่งคืนหรือทำลายข้อมูลที่เป็นความลับและสำเนาใด ๆ ของสิ่งดังกล่าว
7.ในกรณีที่บริษัทและลูกค้าได้เข้าทำสัญญาเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อตกลงอื่นใดที่มีวัตถุประสงค์หรือมีผลบังคับใช้เช่นเดียวกันแยกต่างหากอีกฉบับ ให้ใช้บังคับตามข้อตกลงดังกล่าว 

ข้อ 23 (สิทธิในข้อมูล)
1.สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงลิขสิทธิ์ ในข้อมูลที่ลูกค้าลงทะเบียน นำส่ง หรืออัปโหลดสู่การบริการฯ จะเป็นสิทธิของลูกค้า อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีหน้าที่ต้องปกป้องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าวของลูกค้า
2.ลูกค้าจะต้องอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลที่ลูกค้าลงทะเบียน นำส่ง หรืออัปโหลดสู่การบริการฯ ในขอบเขตที่จำเป็นสำหรับการใช้การบริการฯ โดยลูกค้าจะต้องไม่บังคับใช้สิทธิทางศีลธรรมของผู้สร้างสรรค์ต่อบริษัท
3.สิทธิในข้อมูลของผู้ใช้บริการที่ลูกค้าได้รับจากการใช้การบริการฯ (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงชื่อ รหัสประจำตัว ภาพไอคอน ข้อความสถานะ และเนื้อหาต่าง ๆ ต่อไปนี้เรียกรวมกันว่า “ข้อมูลของผู้ใช้บริการ”) ให้เป็นสิทธิของบริษัท ยกเว้นข้อมูลของผู้ใช้บริการที่ลูกค้ารวบรวมจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่เว็บไซต์ในการให้การบริการฯ แต่เข้าถึงผ่านการใช้การบริการฯ โดยวิธีการที่กำหนดโดยลูกค้า เช่น ลิงก์ต่าง ๆ 
4.ลูกค้าไม่อาจรวบรวมหรือนำข้อมูลของผู้ใช้บริการกลับมาใช้ใหม่เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือจากการใช้การบริการฯ ได้
5.เมื่อลูกค้าต้องการใช้การบริการฯ และเผยแพร่โฆษณา ข้อความหรือสิ่งที่คล้ายคลึงกัน โดยใช้คุณลักษณะ (Deemed Attribute) (ต่อไปนี้เรียกรวมกันว่า "การโฆษณา") ลูกค้าจะต้องไม่ระบุคุณลักษณะของผู้ใช้บริการที่เข้าถึงการโฆษณาโดยการกระทำต้องห้ามในวรรคนี้ให้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการกำหนดปลายทางในการเปลี่ยนผ่านแต่ละรายการ (Transition Destination) ของแต่ละคุณลักษณะเมื่อเผยแพร่การโฆษณา และการเพิ่มข้อมูลเฉพาะซึ่งช่วยให้สามารถติดตามเส้นทางในการเปลี่ยนผ่าน (Transition Path) ในตำแหน่งที่อยู่ของเว็บ (URL) ซึ่งกำหนดปลายทางในการเปลี่ยนผ่าน (Transition Destination)
6.ลูกค้ารับทราบล่วงหน้าว่าบรรดาข้อมูลทั้งหมดที่ลูกค้าลงทะเบียนสำหรับใช้ในการบริการฯ จะถูกลบทิ้งได้ตามดุลยพินิจของบริษัท เมื่อสัญญาบริการครบกำหนดหรือถูกบอกเลิก หรือเมื่อการให้การบริการฯ สิ้นสุดลง
7.ลูกค้ารับทราบว่าข้อมูลที่เผยแพร่ให้กับผู้ใช้บริการโดยผ่านการใช้การบริการฯ จะยังคงอยู่ในอุปกรณ์ของผู้ใช้บริการแม้ภายหลังจากที่สัญญาบริการจะได้สิ้นสุดลงและผู้ใช้บริการสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวต่อไปได้

ข้อ 24 (การจัดการข้อมูล)
1.ในการบริการฯ บริษัทจะเผยแพร่โฆษณาไปยังหน้า LINE VOOM, ไลน์นิวส์ (LINE NEWS), ไลน์มังงะ (LINE Manga) ของผู้ใช้บริการ และตำแหน่งโฆษณา (Ad Spots) ที่จัดเตรียมโดยบริษัทหรือบุคคลภายนอกที่เป็นพันธมิตรกับบริษัท ในแต่ละประเทศหรือภูมิภาคตามที่บริษัทกำหนด เช่น ข้อความที่ส่งผ่านบัญชีทางการ (Official Account) ของลูกค้าและบริษัท
2.บริษัทอาจใช้ดุลยพินิจของตนเองเปลี่ยนรูปแบบการแสดงโฆษณาและเรื่องอื่น ๆ ได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องบอกกล่าวให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า ซึ่งรวมทั้งในระหว่างระยะเวลาการเผยแพร่โฆษณาด้วย
3.บริษัทจะรับและเก็บรักษาข้อมูลจำนวนคลิก จำนวนการแสดงผล จำนวนการดูโฆษณาจนจบและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับผลการเผยแพร่โฆษณาโดยลูกค้า (โดยไม่รวมถึงข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลที่เฉพาะเจาะจงได้ ต่อไปนี้เรียกรวมกันว่า "ข้อมูลที่จัดส่งให้”) และคำนวณสถิติจากข้อมูลที่จัดส่งให้และส่งมอบสถิติที่คำนวณไว้ให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ นอกเสียจากว่าได้ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในข้อกำหนดการใช้งานนี้หรือแนวปฏิบัติในการใช้งานไลน์แท็ก (LINE Tag Guidelines) ลูกค้ารับทราบว่าบริษัทอาจรับมาและใช้ข้อมูลที่จัดส่งให้และข้อมูลทั้งหมดที่จัดทำขึ้นและใช้ในการบริการฯ (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลการเผยแพร่ (Distribution Information) ข้อมูลบันทึกประวัติ (Log Information) และข้อมูลผู้เข้าชม (Audience Data)) สำหรับการให้การบริการฯ และการวัดผลของการบริการฯ เพื่อป้องกันการประพฤติมิชอบ เพื่อแบ่งปันให้แก่คู่ค้าทางธุรกิจของบริษัท เช่น คู่ค้าที่ทำการวัดผลโฆษณา เพื่อปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพของบริการต่าง ๆ ของบริษัทด้วยดุลยพินิจของบริษัทเอง และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ระบุไว้ใน LY Corporation นโยบายความเป็นส่วนตัว  ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่จำกัดเวลา

ข้อ 25 (การชดเชยค่าเสียหาย)
1.ในกรณีที่บริษัทได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากการฝ่าฝืนข้อกำหนดการใช้งานนี้โดยลูกค้า ลูกค้าจะต้องชดเชยค่าเสียหายดังกล่าวทั้งหมดในทันที (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ค่าทนายความตามความเหมาะสม)
2.ในกรณีที่ลูกค้าได้รับข้อเรียกร้อง ข้อกล่าวหา คำร้องขอ คำขอ หรือคำร้องใด ๆ เป็นต้น (ต่อไปนี้เรียกรวมกันว่า "ข้อเรียกร้อง") ว่าลูกค้าได้ละเมิดสิทธิ์ของบุคคลภายนอก รวมถึงผู้ใช้บริการ ในประการที่เกี่ยวข้องกับการบริการฯ ลูกค้าจะต้องยุติข้อเรียกร้องดังกล่าวด้วยค่าใช้จ่ายและความรับผิดชอบของตนเอง โดยในกรณีที่บริษัทได้รับความเสียหายใด ๆ เนื่องจากข้อเรียกร้องดังกล่าว ลูกค้าจะต้องชดเชยค่าเสียหายดังกล่าวในทันที ในกรณีที่บริษัทเป็นผู้ยุติข้อเรียกร้อง ลูกค้าจะต้องชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นแก่บริษัทเพื่อการยุติข้อเรียกร้องดังกล่าว
3.บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นแก่ลูกค้าในระหว่างความไม่ต่อเนื่องหรือการระงับการบริการฯใด ๆ อันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย เช่น อัคคีภัย ไฟฟ้าดับหรือภัยธรรมชาติ การขัดข้องของเครือข่ายหรือระบบ หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ในข้อ 12 และข้อ 13
4.ลูกค้ารับทราบและตกลงว่าในบางกรณีที่ลูกค้าเชื่อมต่อผู้ใช้บริการผ่านทางการบริการฯ ไปสู่บริการอื่น ๆ ภายนอก บริการภายนอกดังกล่าวอาจไม่พร้อมให้ผู้ใช้บริการใช้งานอันเนื่องจากเหตุผลทางเทคนิคหรือเหตุอื่น ๆ นอกจากนี้ ลูกค้าอาจได้รับผลเสีย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการร้องเรียนจากผู้ใช้บริการ และ/หรือ การปฏิบัติที่เสียเปรียบจากผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม (ต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า “ข้อเสียเปรียบ”) ลูกค้าจะรับความเสี่ยงภัยที่เกิดจากข้อเสียเปรียบและรับทราบว่าลูกค้าจะเชื่อมต่อผู้ใช้บริการไปสู่บริการภายนอกด้วยความเสี่ยงภัยของตนเอง ลูกค้าตกลงยอมรับว่าบริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากความไม่พร้อมของบริการภายนอกหรือข้อเสียเปรียบต่าง ๆ
5.ภายใต้บทบัญญัติต่าง ๆ ของข้อกำหนดการใช้งานนี้ บริษัทจะชดเชยความเสียหายต่าง ๆ เฉพาะที่เกิดขึ้นจากการกระทำโดยจงใจหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของบริษัทแก่ลูกค้า โดยจะชดเชยความเสียหายให้เฉพาะความเสียหายตามจริงที่เกิดจากผลโดยตรงและเป็นความเสียหายตามปกติ และจำนวนเงินค่าชดเชยที่บริษัทจะชำระให้จะไม่เกินไปกว่าค่าบริการที่ลูกค้าได้ชำระให้กับบริษัทตามจริงในเดือนก่อนหน้าเดือนที่เกิดความเสียหายขึ้น

ข้อ 26 (การเปลี่ยนชื่อและข้อมูลอื่น ๆ ของลูกค้า)
1.ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในข้อมูลที่ลูกค้าลงทะเบียนไว้ ลูกค้าจะต้องบอกกล่าวให้บริษัททราบในทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวตามวิธีการที่บริษัทกำหนด
2.ในกรณีที่บริษัทได้รับการบอกกล่าวเป็นหนังสือตามวรรคก่อน บริษัทอาจร้องขอให้ลูกค้าส่งมอบเอกสารหลักฐานเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามคำร้องขอดังกล่าว

ข้อ 27 (การจัดการข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้)
1. บริษัทจะใช้ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนที่ได้รับจากลูกค้า (PII) เพื่อประโยชน์ในการให้บริการและบริหารจัดการ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามหน้าที่ในสัญญาที่มีต่อลูกค้า เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุใน LY Corporation นโยบายความเป็นส่วนตัว
2. บริษัทจะใช้หรือเปิดเผยข้อมูล PII ตามวัตถุประสงค์ที่ข้อมูลได้เก็บข้อมูลมาเท่านั้น เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากลูกค้า หรือเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ข้างต้นเท่านั้น

ข้อ 28 (การโอนและการรับมอบสถานะ)
ลูกค้าจะต้องไม่โอน ส่งมอบ หรือนำไปวางเป็นหลักประกันกับบุคคลภายนอก หรือยินยอมให้บุคคลภายนอกเข้ารับสถานะของตนภายใต้สัญญาบริการหรือสิทธิและหน้าที่ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประการที่เกี่ยวเนื่องกับสัญญาบริการ โดยไม่ได้กระทำการตามวิธีการที่บริษัทกำหนด


ข้อ 29 (โมฆะกรรมแยกส่วน)
ในกรณีที่บทบัญญัติใด ๆ ในข้อกำหนดการใช้งานนี้ถูกพิจารณาโดยศาลหรือหน่วยงานอื่นใดที่มีอำนาจว่าเป็นโมฆะหรือไม่สามารถบังคับใช้ได้ ไม่ให้โมฆะกรรมหรือการไม่สามารถบังคับใช้ได้ของข้อกำหนดดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความสมบูรณ์หรือการบังคับใช้ของบทบัญญัติอื่น ๆ หรือกฎที่เกี่ยวข้อง และให้เปลี่ยนบทบัญญัติที่ถูกพิจารณาว่าเป็นโมฆะหรือไม่สามารถบังคับใช้ได้นั้นเป็นบทบัญญัติตามเจตนารมณ์เบื้องต้นระหว่างบริษัทและลูกค้าตามกฎหมาย

ข้อ 30 (กฎหมายที่ใช้บังคับ)
ข้อกำหนดการใช้งานนี้ให้อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น

ข้อ 31 (เขตอำนาจศาลเฉพาะ)
บริษัทและลูกค้าตกลงว่าให้ศาล Tokyo Summary Court หรือศาลแขวงโตเกียว (Tokyo District Court) ซึ่งกำหนดตามจำนวนมูลค่าความเสียหายที่เรียกร้อง เป็นศาลชั้นต้นที่มีเขตอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการพิจารณาข้อพิพาท
ใด ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับข้อกำหนดการใช้งานนี้หรือการบริการฯ

ข้อ 32 (การปรึกษาหารือ) 
เรื่องใด ๆ ที่ไม่ได้กำหนดไว้ในข้อกำหนดการใช้งานนี้ ให้บริษัทและลูกค้าปรึกษาหารือกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นโดยสุจริต 

ประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561
แก้ไขเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561
แก้ไขเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2562
แก้ไขเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562
แก้ไขเมื่อพฤษภาคม 2563
แก้ไขเมื่อกันยายน 2563
แก้ไขเมื่อ16 ตุลาคม 2563
แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2563
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม 2565
แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2565
แก้ไขเมื่อ 1 สิงหาคม 2565
แก้ไขเมื่อ 1 ตุลาคม 2566