LINE

ภาษาไทย

ข้อกำหนดการใช้งาน LINE MyCustomer (LINE MyCustomer Terms of Use)


ข้อ 1. วัตถุประสงค์
บรรดาข้อกำหนดการใช้งาน LINE MyCustomer (LINE MyCustomer Terms of Use) ในเอกสารฉบับนี้ (ต่อไปนี้เรียกว่า “ข้อกำหนด”) ได้ระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขต่าง ๆ สำหรับการใช้งาน LINE MyCustomer สำหรับบัญชีทางการ (LINE Official Accounts) (ต่อไปนี้เรียกว่า “บริการฯ”) ที่ให้บริการโดยบริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด และ/หรือ บริษัทในเครือ (ต่อไปนี้เรียกรวมกันว่า "บริษัท") โดยให้บังคับใช้ข้อกำหนดในเอกสารฉบับนี้เพิ่มเติมจากข้อกำหนดการใช้งานบัญชีทางการ (LINE Official Account Terms of Use) และข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และในกรณีที่มีความขัดแย้งกันหรือกรณีที่คล้ายคลึงกันใด ๆ เกี่ยวกับบริการฯระหว่างข้อกำหนดในเอกสารฉบับนี้กับข้อกำหนดการใช้งานบัญชีทางการ (LINE Official Account Terms of Use) และข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้บังคับใช้ตามข้อกำหนดในเอกสารฉบับนี้ คำเฉพาะที่ไม่ได้นิยามไว้ในเอกสารฉบับนี้ให้มีความหมายตามที่นิยามไว้ในข้อกำหนดการใช้งานของบัญชีทางการ (LINE Official Account Terms of Use) และข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ข้อ 2. การสมัครใช้งาน
1. ลูกค้าบัญชีทางการหรือบุคคลที่กระทำการแทนบัญชีทางการ (ตามที่เกี่ยวข้อง) ซึ่งตกลงยอมรับตามข้อกำหนดในเอกสารนี้ และเข้าทำสัญญาอื่นเกี่ยวกับการใช้บริการฯ ตามที่บริษัทกำหนดโดยบริษัท และได้รับอนุญาตจากบริษัท (“ลูกค้า”) เท่านั้นจึงจะสามารถใช้บริการฯ ได้ ข้อกำหนดในเอกสารฉบับนี้ และสัญญาอื่น ๆ ต่อไปนี้รวมเรียกว่า (“สัญญาฯ”) 

2. ข้อกำหนดในเอกสารฉบับนี้ให้ใช้บังคับกับลูกค้าเพิ่มเติมจากข้อกำหนดการใช้งานบัญชีทางการ (LINE Official Account Terms of Use) และข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามทั้งข้อกำหนดการใช้งานบัญชีทางการ (LINE Official Account Terms of Use) และข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและข้อกำหนดในเอกสารฉบับนี้ซึ่งเกี่ยวกับการใช้บริการฯ ด้วย 

3. ข้อกำหนดในเอกสารฉบับนี้ให้ใช้บังคับกับฟังก์ชันการใช้งาน/ฟีเจอร์ต่าง ๆ ทั้งหมดของบริการฯ นี้ ซึ่งให้บริการแยกต่างหาก เช่น MyCustomer CRM Package เป็นต้น โดยลูกค้าจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในเอกสารฉบับนี้ถึงแม้ว่าจะใช้เพียงฟังก์ชันการใช้งาน/ฟีเจอร์ต่างๆ เพียงแค่บางส่วนของบริการฯ ก็ตาม

4. โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าการกระทำและการดำเนินการของตนเมื่อใช้การบริการฯ (ไม่จำกัดเพียงเฉพาะการกระทำและการดำเนินการที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติและรวมถึงเสียงและข้อความต่าง ๆ เป็นต้น) จะเป็นไปตามและไม่ขัดแย้งกับ ข้อกำหนดในเอกสารนี้ สัญญาฯ และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้บริการ

5. ในกรณีที่มีการสิ้นสุดของสัญญาฯ หรือระงับการให้บริการบัญชีทางการ บริการฯ นี้จะถูกระงับไปด้วย 

6. สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และสิทธิอื่นทั้งปวง รวมทั้งลิขสิทธิ์ ที่เกี่ยวข้องกับบริการฯ จะเป็นของบริษัท หรือบุคคลภายนอกที่มีสิทธิตามกฎหมาย และบุคคลดังกล่าวยังคงได้รับการอนุญาตให้ใช้สิทธิและสิทธิในการให้บริการฯ ตราบที่ลูกค้าปฏิบัติตามข้อกำหนด ลูกค้าจะได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิในการใช้บริการฯ โดยไม่คิดค่าสิทธิ โดยที่มีข้อจำกัด โดยที่ไม่ใช่สิทธิแต่เพียงผู้เดียว ตามสภาพอย่างที่เป็น (as-is) โดยสามารถเพิกถอนได้ ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่น และไม่สามารถให้อนุญาตช่วง (Sublicense) เว้นแต่บริษัทจะให้ตกลงอย่างชัดแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร โดยการอนุญาตให้ใช้สิทธิข้างต้นจะอยู่ภายใต้บังคับของข้อกำหนด เงื่อนไข นโยบาย และคำสั่งและเอกสารใดๆ และทั้งปวงที่บริษัทอาจจัดไว้ให้เกี่ยวกับบริการฯ เป็นครั้งคราว

ข้อ 3. รายละเอียดของการบริการฯ
1. การบริการฯ นี้เป็นบริการเสริมสำหรับบัญชีทางการ ซึ่งประกอบไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานหลักต่าง ๆ ที่หลากหลาย (รวมถึงการทำสำรวจ ข้อความเฉพาะตัวบุคคล การจัดกลุ่มผู้ชม และ/หรือ โปรแกรมเสนอสิทธิประโยชน์แก่ลูกค้า (loyalty program) เป็นต้น) โดยจะสามารถใช้การบริการฯ กับบัญชีทางการของลูกค้าแต่ละรายได้เมื่อได้จัดทำสัญญาฯ ระหว่างบริษัทและลูกค้าขึ้น

2. เมื่อใช้การบริการฯ ลูกค้าจะมีหน้าที่รับผิดชอบตรวจสอบด้วยตนเองให้แน่ใจว่าลูกค้ามีจำนวนข้อความสำหรับบรอดคาสต์ (broadcasting messages) คงเหลือในบัญชีทางการ ของลูกค้าอย่างเพียงพอและพร้อมใช้งาน  

ข้อ 4. บัญชี
1. ลูกค้าจะต้องจัดการรหัสผ่านสําหรับบัญชีที่ใช้สําหรับการใช้บริการฯ ("บัญชี")  ด้วยความรับผิดชอบของตนเองอย่างเคร่งครัด เพื่อมิให้ถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อมีการใช้รหัสผ่านที่ลงทะเบียนของลูกค้าเพื่อใช้บริการฯ บริษัทจะให้บริการฯ โดยถือว่าการกระทําดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำของลูกค้าและกระทำโดยลูกค้า

2. บริษัทไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายหรือการเสียประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับลูกค้าอันเกิดจากการกระทำที่ทำผ่านบัญชีไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ทั้งนี้ตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต

3. หากลูกค้ามีความประสงค์ บริษัทอาจให้ความช่วยเหลือลูกค้าในการดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีภายในขอบเขตที่สมเหตุสมผลได้ในบางกรณี ในกรณีดังกล่าว บริษัทอาจเข้าถึงและดําเนินการกับบัญชีภายในขอบเขตที่จําเป็นเพื่อให้ความช่วยเหลือนั้น นอกจากนี้ บริษัทจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับลูกค้าและผู้ใช้ที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน LINE (ต่อไปนี้จะเรียกว่า "ผู้ใช้งาน") ซึ่งเกิดจากการดําเนินการดังกล่าวข้างต้น

4. ภายใต้บังคับข้อ 15 เมื่อสัญญาฯ ครบกำหนดหรือสิ้นสุดลง หรือเมื่อสิ้นสุดการให้บริการฯ บริษัทอาจลบข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีที่เกี่ยวข้องและเนื้อหาที่มีการเผยแพร่ผ่านทางบัญชี (หมายถึงข้อมูลหรือเนื้อหาในรูปแบบที่ลูกค้าอนุญาตให้มีการส่งผ่านหรือเข้าถึง โดยลูกค้าผ่านการใช้บริการฯ รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียง ไอคอนบัญชี ข้อมูลโปรไฟล์ ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอซึ่งส่งโดยลูกค้า ต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า "เนื้อหา") โดยดุลยพินิจของบริษัท และ ลูกค้าตกลงกับการดำเนินการดังกล่าว

ข้อ 5. การแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนด
บริษัทอาจแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดและลักษณะของบริการหรือเรื่องอื่น ๆ ในการให้บริการฯนี้ได้ โดยจะประกาศหรือบอกกล่าวให้ลูกค้าทราบถึงการแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวตามดุลยพินิจของบริษัทแต่เพียงผู้เดียวที่เห็นว่าเป็นกรณีจำเป็นหรือตามบทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยในกรณีที่ลูกค้ายังคงใช้การบริการฯ นี้ต่อไปภายหลังการแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนด ให้ถือว่าลูกค้าผู้นั้นได้ให้ความเห็นชอบต่อการแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดและลักษณะของบริการหรือเรื่องอื่น ๆ ดังกล่าวแล้ว

ข้อ 6. ระยะเวลาการใช้งาน
ระยะเวลาการใช้งานให้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ลูกค้าเข้าทำสัญญาฯ กับบริษัทและสิ้นสุดลงในวันที่สัญญาฯ สิ้นสุดลง

ข้อ 7. ค่าบริการฯ
1. ลูกค้าตกลงจะชำระค่าบริการฯ ในระหว่างระยะเวลาการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรายปี รายเดือน หรือตามระยะเวลาอื่นที่ได้ตกลงกับบริษัททันทีเมื่อถึงกำหนดชำระเงินสำหรับการใช้บริการฯ

2. บริษัทอาจปรับเปลี่ยนราคาตามที่ระบุไว้ในวรรคก่อนหน้านี้ได้โดยการประกาศหรือบอกกล่าวให้ลูกค้าทราบถึงการปรับเปลี่ยนดังกล่าว  หรือจัดให้มีการลงนามเพิ่มเติมระหว่างบริษัทและลูกค้า (ตามที่เหมาะสม) 

3. สำหรับการใช้บริการฯ ซึ่งมีค่าบริการฯ แบบมีกำหนดระยะเวลาตายตัว เป็นรายปี ลูกค้าจะไม่สามารถยกเลิกสัญญาฯที่จัดทำขึ้นแล้วได้ ในกรณีที่ลูกค้าประสงค์จะยกเลิกการบริการฯ ในระยะเวลาใดก็ตามลูกค้าจะต้องชำระค่าบริการฯ เต็มจำนวนของปีนั้น ๆ โดยค่าบริการฯ ดังกล่าวจะไม่คำนวณเป็นรายวันตามระยะเวลาการใช้งานคงเหลือที่ระบุไว้ในสัญญาฯ นอกจากนี้บริษัทจะไม่ชำระคืนค่าบริการฯ ที่ลูกค้าชำระไว้ล่วงหน้าในกรณีที่ลูกค้าได้ยกเลิกการบริการฯ ไปแล้ว 

4. สำหรับการใช้บริการฯ ซึ่งมีค่าบริการฯ แบบมีรอบระยะเวลาซึ่งมีการต่ออายุโดยอัตโนมัติ ("บริการฯ แบบสมาชิก") ลูกค้าสามารถรับบริการฯ แบบสมัครสมาชิก โดยสมัครสมาชิกตามแผนบริการฯ แบบสมาชิก (Subscription Plan) ในราคาและระยะเวลาที่บริษัทกำหนด โดยการลงทะเบียนข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็น ซึ่งบริษัทร้องขอ ถ้าลูกค้าให้ข้อมูลบัตรเครดิตที่ใช้งานได้ และเลือกที่จะสมัครบริการฯ แบบสมาชิก ลูกค้าอนุญาตให้บริษัทต่ออายุการสมัครสมาชิกโดยอัตโนมัติสำหรับงวดถัดไป โดยเริ่มในวันหมดอายุตามกำหนดเวลาของงวดแรก และงวดต่อๆ ไปหลังจากนั้น โดยเรียกเก็บค่าบริการฯ ไปที่บัญชีของลูกค้า เว้นแต่ลูกค้าจะยกเลิกบริการฯ แบบสมาชิกล่วงหน้าด้วยวิธีการที่บริษัทกำหนด ในกรณีที่ลูกค้าสมัครสมาชิกในวันที่ไม่ตรงกับวันแรกของระยะเวลาบริการใดก็ตาม ค่าบริการฯ แบบสมาชิกสำหรับงวดแรกจะถูกคิดเฉลี่ยตามจำนวนวัน (Prorate) โดยเริ่มจากวันแรกที่ลูกค้าสมัครสมาชิกจนถึงวันหมดอายุตามกำหนดเวลาของงวดแรก จากนั้นค่าบริการฯ งวดต่อไปที่จะมีการเรียกเก็บไปที่บัญชีของลูกค้าจะเป็นไปตามค่าบริการฯ แบบสมาชิกที่กำหนดไว้สำหรับแผนบริการฯ นั้นๆ แม้ว่าลูกค้าจะยกเลิกบริการฯ แบบสมาชิกภายในระยะเวลาบริการใดก็ตาม ลูกค้าดังกล่าวจะต้องชำระค่าบริการฯ แบบสมาชิกเต็มจำนวนสำหรับช่วงเวลาดังกล่าว และ ค่าบริการฯ แบบสมาชิกดังกล่าวจะไม่ถูกคำนวณเป็นรายวันและสำหรับระยะเวลาการใช้งานที่เหลืออยู่ในช่วงเวลาที่กำหนดซึ่งบริการฯ แบบสมาชิกถูกยกเลิก นอกจากนี้ แม้ว่าบริการฯ จะถูกยกเลิก บริษัทจะไม่มีการคืนเงินค่าบริการฯ แบบสมาชิกที่ลูกค้าชำระไว้ล่วงหน้า ลูกค้าสามารถสมัครบริการฯ แบบสมาชิกอีกครั้งได้ผ่านวิธีการที่บริษัทกำหนด

5. ในการชำระค่าบริการฯ ให้กับบริษัท หากการชำระเงินดังกล่าวต้องถูกเรียกเก็บภาษีโภคภัณฑ์ (หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม) ตามบทบัญญัติของกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับ ลูกค้าจะต้องเป็นผู้ชำระค่าบริการฯพร้อมกับเงินจำนวนที่เทียบเท่ากับภาษีที่เกี่ยวข้องด้วย

6. ในกรณีที่ลูกค้าชำระค่าธรรมเนียมการใช้งานการบริการฯ ล่าช้า ให้สัญญาฯ ระงับไปโดยอัตโนมัติ (ภายใต้บังคับของข้อกำหนดระหว่างบริษัทและลูกค้ารายดังกล่าว หากมี) และในกรณีที่มีความเสียหายเกิดขึ้นแก่ลูกค้าจากการระงับสัญญาฯ ดังกล่าว บริษัทจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณีดังกล่าวต่อลูกค้าผู้นั้น นอกจากนี้ลูกค้าจะต้องชำระค่าธรรมเนียมการชำระเงินล่าช้าให้กับบริษัทในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี (คำนวณเป็นรายวัน) จากยอดเงินที่ค้างชำระในช่วงระยะเวลาที่ชำระล่าช้าด้วย

ข้อ 8. การคืนเงิน
ลูกค้าตกลงว่าการชำระค่าบริการฯ เป็นการชำระแบบรายปี แบบรายเดือน หรือตามที่ตกลงกันกับบริษัทเป็นประการอื่น และบริษัทจะไม่ชำระคืนค่าบริการฯ ใดๆ ที่ลูกค้าได้ชำระมาแล้วไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม

ข้อ 9 ข้อจำกัดการใช้งานบัญชี
แม้ว่าภายหลังจากที่ลูกค้าได้เริ่มต้นการใช้บริการฯ แล้วก็ตาม หากบริษัทเห็นว่าข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้เกิดขึ้นกับลูกค้าที่เกี่ยวข้อง บริษัทอาจจํากัดการใช้บริการฯ ของลูกค้ารายดังกล่าวในบางกรณี เช่น โดยการไม่อนุญาตให้ลูกค้าดังกล่าวใช้บริการฯ หรือระงับการใช้งานนั้น นอกจากนี้ กรณีดังต่อไปนี้ถือเป็นเพียงตัวอย่าง ดังนั้น แม้ลูกค้าจะได้สอบถามเกี่ยวกับเกณฑ์การตัดสินในกรณีเฉพาะเจาะจง หรือการจำกัดการใช้บัญชีกับบริษัท บริษัทไม่มีหน้าที่ใดๆ ในการตอบคำถามเหล่านั้น
(1) บริษัท องค์กร หรือบุคคลธรรมดาที่ได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์หรือบริการซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างสูงว่าจะถูกนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรม
(2) บริษัท องค์กรหรือบุคคลธรรมดาซึ่งได้กระทำหรือยุยงให้มีการทำการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือเป็นความผิดอาญา
(3) บริษัท องค์กรหรือบุคคลธรรมดาซึ่งได้ทำการขาย ซื้อ เป็นคนกลาง เป็นนายหน้า เป็นต้น ที่ผิดกฎหมายหรือเป็นการฉ้อฉลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลที่จดทะเบียนและ / หรือการใช้ข้อมูลประวัติการใช้งานของบุคคลอื่น
(4) บริษัท องค์กรหรือบุคคลธรรมดาซึ่งได้กระทำการซึ่งขัดต่อกฎหมาย ข้อบังคับ หรือนโยบายของรัฐ หรือบุคคลทั้งหลายซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างสูงว่าจะกระทำการดังกล่าว 
(5) บริษัท องค์กร หรือบุคคลธรรมดาซึ่งบริษัทเชื่อว่าได้กระทำการซึ่งเป็นการกระทำที่ต้องห้ามดังที่ระบุไว้ในข้อ 10 
(6) บริษัท องค์กร หรือบุคคลธรรมดา (รวมถึงแต่ไม่ จํากัดเพียง บริษัท องค์กรหรือบุคคลธรรมดาที่น่าจะก่อให้เกิดข้อร้องเรียนจากผู้ใช้งาน การตอบสนองที่ไม่เป็นผลดีจากบุคคลอื่น หรือข้อเสียเปรียบอื่น ๆ บริษัท องค์กรหรือบุคคลธรรมดาที่มีแนวโน้มที่จะมีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือหรือชื่อเสียงของบริษัท  และบริษัท องค์กร หรือบุคคลธรรมดาที่น่าจะทำให้บริษัทต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อร้องเรียนหรือข้อพิพาท เป็นต้น) ซึ่งบริษัทเห็นว่าไม่เหมาะสมสําหรับการใช้บริการฯ

ข้อ 10 การกระทำที่ต้องห้าม
ลูกค้าไม่ได้รับอนุญาตให้กระทำการดังต่อไปนี้ เมื่อใช้บริการฯ 
(1) ฝ่าฝืนกฎหมาย ข้อบังคับ คําพิพากษา คําตัดสินขี้ขาดหรือคําสั่ง หรือวิธีการทางปกครองที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย 
(2) การกระทําอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือการกระทําที่อาจก่อให้เกิดการทําที่ผิดกฎหมาย
(3) ละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท หรือบุคคลอื่น (เช่น ลิขสิทธิ์ สิทธิในเครื่องหมายการค้า และสิทธิในสิทธิบัตร) สิทธิในเกียรติยศ  สิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลดังกล่าว หรือสิทธิตามกฎหมายหรือสัญญาอื่น ๆ
(4) กระทําการที่อาจเป็นการฝ่าฝืนนโยบายสาธารณะ
(5) ให้ผลประโยชน์แก่กลุ่มคนที่ต่อต้านสังคม หรือให้ความร่วมมือในรูปแบบอื่น ๆ
(6) ใช้บริการฯ เป็นสื่อโฆษณาสําหรับบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากบริษัท (รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงการโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือบริการของบุคคลอื่นผ่านการใช้บริการฯ)
(7) เผยแพร่โฆษณาหรือข้อความใดๆ โดยใช้ข้อมูลการระบุข้อมูลประชากรศาสตร์ (Demographic) ของผู้ใช้งานแต่ละรายที่เข้าถึงโฆษณา หรือข้อความใด ๆ ที่เผยแพร่โดยใช้ข้อมูลประชากรศาสตร์ (Demographic) ของผู้ใช้งาน (จะเรียกรวมกันว่า "โฆษณา") การกระทําที่ต้องห้ามในข้อนี้ รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียง (1) การกําหนดเว็บไซต์ในการส่งผ่านข้อมูลเชิงประชากรต่างๆ และ (2) ส่วนเพิ่มเติมของข้อมูลที่สามารถตามรอยได้ของตัวชี้แหล่งในอินเตอร์เน็ต (URL) ของเว็บไซต์เพื่อการส่งผ่านสำหรับวัตถุประสงค์ข้างต้นเมื่อบริษัททำการเผยแพร่โฆษณา
(8) มอบหมายหรือการให้บุคคลอื่นบัญชี หรือการใช้บัญชีร่วมกับบุคคลอื่น
(9) ปลอมแปลงเป็นบริษัทหรือบุคคลอื่น การแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จโดยจงใจ หรือการให้หรือเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหรือการบํารุงรักษาของประเภทธุรกิจที่ลูกค้าได้สมัครขอใช้บริการฯ ไว้
(10) เก็บรวบรวม เปิดเผย หรือการให้ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลการลงทะเบียน หรือข้อมูลประวัติการใช้ของบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย
(11) โพสต์หรือส่งผ่านความเห็น และ/หรือรูปภาพที่มีความรุนแรงเกินสมควร การแสดงความเห็น และ/หรือรูปภาพเกี่ยวกับเพศอย่างชัดแจ้ง การแสดงความเห็นและ/หรือรูปภาพที่อาจก่อให้เกิดการแบ่งแยกจากเชื้อชาติ สัญชาติ หลักความเชื่อ เพศ สถานะทางสังคม ต้นกําเนิดของครอบครัว และอื่นๆ  การแสดงความเห็น และ / หรือรูปภาพที่กระตุ้นให้หรือส่งเสริมการฆ่าตัวตาย ทำร้ายตนเอง การใช้ยาเสพติด หรือการแสดงความเห็น และ/หรือรูปภาพอื่น ๆ ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการต่อต้านสังคมที่อาจทําให้เกิดความไม่สบายใจแก่ผู้อื่น 
(12) กระทําการเพื่อวัตถุประสงค์ในการร่วมเพศด้วยการสอดใส่หรือการอนาจาร หรือกระทําการเพื่อวัตถุประสงค์ในการนัดพบ หรือออกเดทกับบุคคลแปลกหน้าต่างเพศ กระทําการเพื่อวัตถุประสงค์ในการละเมิดหรือใส่ร้ายลูกค้ารายอื่น หรือกระทําการอื่นๆ ผ่านการใช้บริการฯ เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่บริษัทคาดหวัง
(13) เผยแพร่ข้อมูลที่ถือเป็นการก่อให้เกิดความไม่สบายใจหรือเป็นการรบกวนโดยผู้ใช้งานหรือบุคคลอื่น 
(14) กระทําการที่ก่อให้เกิดต่อระบบ และ/หรือ ระบบเครือข่ายของ LINE MyCustomer
(15) กระทําการที่เป็นการรบกวนการบริหารจัดการ LINE MyCustomer โดยบริษัท การใช้บริการฯ ของลูกค้ารายอื่น หรือกระทําการที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการหรือการใช้งานนั้น
(16) จงใจทําให้ LINE MyCustomer ล้มเหลวผ่านการใช้งาน
(17) สอบถามหรือร้องขอต่อบริษัทอย่างไม่สมเหตุสมผลต่อบริษัท
(18) การเผยแพร่ความเห็น รูปภาพ และ/หรือข้อมูลที่ขัดแย้งกับข้อกําหนดนี้ และ/หรือแนวปฏิบัติในการใช้บริการฯ ข้อกำหนดการใช้งานทั่วไปของ LY Corporation  ข้อกำหนดการใช้งานบัญชีทางการ (LINE Official Account Terms of Use) หรือแนวทางการใช้บัญชีทางการ (LINE Official Account Guidelines)
(19) การเผยแพร่ความเห็น รูปภาพ และ/หรือข้อมูลที่จะขัดต่อแนวทางการใช้งานตราสัญลักษณ์ (Logo Use Guidelines)  
(20) การกระทําที่เป็นการช่วยเหลือหรือส่งเสริมการใดๆ ที่กําหนดไว้ในข้อ (1) ถึง ข้อ (19) และ
(21) การกระทําอื่นใดที่บริษัทเห็นว่าไม่เหมาะสม

ข้อ 11. เนื้อหา
1. ลูกค้ารับรองและรับประกันต่อบริษัทเกี่ยวกับการใช้บริการฯ ดังนี้
(1) เนื้อหาจะต้องไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น (รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียง ลิขสิทธิ์ ธรรมสิทธิ สิทธิในสิทธิบัตร สิทธิในเครื่องหมายการค้า สิทธิในการออกแบบ สิทธิในผลิตภัณฑ์อรรถประโยชน์ ความลับทางการค้า สิทธิในเกียรติยศ สิทธิในตัวบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และสิทธิในการเผยแพร่)
(2) เนื้อหาจะต้องไม่ประกอบด้วยข้อมูลซึ่งขัดต่อนโยบายสาธารณะ (รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียง เนื้อหาที่มีความรุนแรงเกินสมควร และเนื้อหาทางเพศอย่างชัดแจ้ง) กฎหมาย ข้อบังคับ หรือข้อกำหนดนี้
(3) ในกรณีที่เนื้อหาประกอบไปด้วยตัวชี้แหล่งในอินเตอร์เน็ต (URL) ลูกค้าจะต้องใช้ตัวชี้แหล่งในอินเตอร์เน็ตซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถจดจำสถานะของการเข้าถึงได้เท่านั้น หรือต้องจัดให้มีมาตรการที่จำเป็นเพื่อเพื่อทำให้ผู้ใช้งานสามารถจดจำสถานะดังกล่าวได้ 

2. ในกรณีที่เนื้อหาประกอบด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น เนื้อหาดังกล่าวจะต้องมีข้อความเพื่อทำให้แน่ใจว่าผู้ใช้งานจะไม่เข้าใจว่าข้อมูลนั้นถูกจัดเตรียมโดยบุคคลอื่นดังกล่าว (รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียง การแสดงออกอย่างชัดเจนถึงแหล่งที่มาของข้อมูล และการแสดงออกอย่างชัดเจนว่าข้อมูลนั้นไม่ได้ถูกจัดเตรียมโดยบุคคลอื่นดังกล่าว) 

3. ลูกค้าตกลงว่าบริษัทอาจทำการยืนยันลักษณะของเนื้อหาเพื่อวัตถุประสงค์ในการดําเนินการให้บริการฯ ที่เหมาะสม  ซึ่งในกรณีที่บริษัทเห็นว่ามีข้อมูลที่ไม่เหมาะสมอยู่ในเนื้อหา บริษัทสามารถที่จะไม่เผยแพร่เนื้อหาดังกล่าว หรือบริษัทสามารถลบเนื้อหาดังกล่าวได้

4. ในกรณีที่ลูกค้าละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ / หรือข้อกำหนดในเอกสารนี้ รวมถึงละเมิดสิทธิใด ๆ ของบุคคลอื่น บริษัทอาจยกเลิกการใช้บริการฯ ของลูกค้า

5. ในกรณีที่ศาล หน่วยงานสืบสวน หรือสถาบันของรัฐ ได้ร้องขอให้บริษัทเปิดเผยหรือจัดให้ซึ่งเนื้อหา หากบริษัทเห็นว่าการร้องขอนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือสมเหตุสมผล บริษัทอาจเปิดเผยหรือจัดให้ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้า

6. สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงลิขสิทธิ์ในเนื้อหาจะเป็นของลูกค้า เพียงในส่วนที่ไม่ได้ละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลอื่น อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีหน้าที่ในการปกป้องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าวของลูกค้า

7. บริษัทอาจใช้เนื้อหาและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้ารวมถึงและไม่จํากัดเพียงข้อมูลการใช้บริการฯ (รวมถึงข้อมูลที่ลูกค้าลงทะเบียนเมื่อเริ่มต้นการใช้บริการฯ  และจํากัดเฉพาะข้อมูลที่ไม่ขัดต่อการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของการสื่อสาร) เส้นทางการใช้งาน และข้อมูลซึ่งเก็บรวบรวมเป็นข้อมูลสถิติ เพื่อป้องกันการใช้บริการของบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต  การให้บริการ การวิเคราะห์ทางสถิติ การพัฒนา และปรับปรุงบริการ ตลอดจนการเผยแพร่ และโฆษณาประชาสัมพันธ์การให้บริการของบริษัท แพลตฟอร์ม ประสิทธิภาพของฟีเจอร์บริการ และประสบการณ์ผู้ใช้ ลูกค้าตกลงในเรื่องดังกล่าวล่วงหน้า (รวมถึงการไม่ใช้สิทธิโดยธรรมกับบริษัท) และบริษัทอาจร่วมใช้ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นกับบุคคลที่ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับบริการของบริษัทและผู้รับจ้างช่วงของบริษัทเท่าที่จําเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้น

8. บริษัทอาจจัดเก็บรักษาเนื้อหาไว้ในระบบเครือข่ายของบริษัทนอกจากนี้ บริษัทไม่มีหน้าที่ใดๆ ในการเก็บรักษาเนื้อหา ทั้งนี้ ในกรณีที่ลูกค้าเห็นว่าเป็นการจำเป็นที่จะเก็บเนื้อหา ลูกค้าดังกล่าวจะต้องดำเนินการเช่นว่านั้นด้วยค่าใช้จ่ายและความรับผิดชอบของตนเอง 

ข้อ 12. การจัดการข้อมูลของผู้ใช้งาน
1. หากลูกค้าเก็บรวบรวมข้อมูล (รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล) จากผู้ใช้งาน  ผ่านการใช้บริการฯ หรือให้ข้อมูลใดเกี่ยวกับผู้ใช้งานแก่บริษัท ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบต่อข้อมูลดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียวโดยลูกค้าจะต้องใช้ความระมัดระวังในการจัดการข้อมูลดังกล่าวด้วยความรับผิดชอบของตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลดังกล่าวจะไม่ถูกนำไปใช้ในประการที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ ตลอดจนกฎหมายอื่นๆ กฎระเบียบ และแนวปฏิบัติอื่นในเรื่องการจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการฯ บริษัทจะถือว่า กิจกรรมใด ๆ ทั้งหมดที่ดำเนินการตามข้อมูลยืนยันตัวบุคคลเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยลูกค้าที่ได้รับการลงทะเบียนข้อมูลยืนยันตัวบุคคลนั้น ๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีหน้าที่ติดตามหรือตรวจสอบข้อมูลใด ๆ ที่นำส่งเข้ามาในการบริการฯ

2. ภายใต้บังคับข้อ 15 ลูกค้าตกลงยอมรับล่วงหน้าว่าบริษัทอาจใช้ดุลพินิจของบริษัท ลบข้อมูลทั้งหมดที่ลูกค้ารวบรวมมาได้เมื่อครบกำหนดอายุสัญญาฯ หรือสัญญาฯ หรือการให้การบริการฯ สิ้นสุดลง

3. ห้ามเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (ตามนิยามที่กำหนดไว้ในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) ไม่ว่าโดยการใช้ฟีเจอร์ใด ๆ ของบริการฯ

4. ในกรณีที่ลูกค้าใช้ฟีเจอร์ซึ่งเกี่ยวข้องกับบริการอื่นๆ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง OA CMS, LINE OA Plus และอื่นๆ) ที่ให้บริการโดยบริษัท หรือบริษัทในเครือ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง LY Corporation และบริษัทในเครือของ LY Corporation) (“บริการที่เกี่ยวข้องกัน”)  ลูกค้าเข้าใจและตกลงว่าข้อมูลใดๆ และข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับจากผู้ใช้งานผ่านการใช้บริการฯ นี้ และ/หรือ บริการที่เกี่ยวข้องกัน (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ชื่อผู้ใช้งาน ไลน์ไอดี รูปภาพสำหรับไอคอน ข้อความสถานะ รูปภาพ และการติดตามบัญชีทางการ ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ข้อมูลของผู้ใช้งาน”) ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีทางการ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ตัวบ่งชี้ผู้ใช้งาน ตัวบ่งชี้ภายในของบริษัท ตัวบ่งชี้ที่เป็นลักษณะเฉพาะ และกุญแจเฉพาะของช่องทาง (signature key) ข้อมูลรูปแบบเกี่ยวกับบัญชีทางการ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง รูปแบบข้อมูล (ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเนื้อหาที่ส่งออกไปเป็นรูปแบบข้อความ รูปภาพ วีดีโอ หรือรูปแบบอื่น) ข้อมูลว่าเนื้อหาที่ส่งออกไปนั้นได้มีการอ่านหรือไม่ ผู้ส่งและผู้รับเนื้อหานั้น รวมถึงเวลาและวันที่ซึ่งเนื้อหานั้นได้ส่งและได้รับ เวลาและวันที่ซึ่งฟีเจอร์ in-chat ได้ถูกใช้) จะถูกแบ่งปันจากบริการที่เกี่ยวข้องกันไปยังบริการฯ LINE MyCustomer และจากบริการฯ LINE MyCustomer ไปยังบริการที่เกี่ยวข้องกันดังกล่าว โดยคำสั่งของลูกค้าเพื่อการให้บริการฯ นี้และบริการที่เกี่ยวข้องกัน

5. บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความสูญเสียใด ๆ กับข้อมูลข้างต้น

ข้อ 13. การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
1. บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ที่ลูกค้าให้ไว้แก่บริษัทเพื่อให้บริการฯ และดำเนินการบริการฯ เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามสัญญาฯ ของบริษัทกับท่าน และปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับ และเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ โดยสอดคล้องกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด ลูกค้ารับทราบรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ในนโยบายดังกล่าว

2. หากลูกค้าให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น (นอกเหนือจากลูกค้า) แก่เราเกี่ยวกับตัวลูกค้าเอง หรือการใช้บริการฯ ลูกค้ารับรองและรับประกันว่าลูกค้ามีอำนาจที่จะกระทำเช่นนั้น และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด

3.บริษัทจะใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ข้อมูลนั้นได้เก็บรวบรวมมาเท่านั้น เว้นแต่ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากท่าน หรือตามที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้กระทำได้ และบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวเท่านั้น

4. ลูกค้าขอรับรองและรับประกันต่อบริษัทว่าข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ให้ไว้แก่บริษัทนั้นเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง เป็นปัจจุบันและสมบูรณ์ ซึ่งลูกค้าจะแจ้งให้บริษัททราบหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าว

5.ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในข้อมูลของลูกค้าที่ได้ลงทะเบียนไว้ ลูกค้าจะต้องแจ้งให้บริษัททราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวโดยไม่ชักช้าตามวิธีการที่บริษัทกำหนด

6.ในกรณีที่บริษัทได้รับแจ้งการเปลี่ยนแปลงในวรรคก่อน บริษัทอาจขอให้ลูกค้าจัดส่งเอกสารเพื่อยืนยันถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและลูกค้าจะต้อง
ปฏิบัติตามคำขอดังกล่าวด้วย

ข้อ 14. การระงับการใช้ และการบอกเลิก
1. บริษัทอาจระงับการให้บริการฯ ชั่วคราวในบางกรณี หากเกี่ยวกับข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
(1) ในกรณีที่มีการบํารุงรักษา ตรวจสอบ หรือการดำเนินการที่คล้ายกันเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกหรืออุปกรณ์ที่จําเป็นสําหรับการให้บริการฯ ซึ่งมีขึ้นได้ตามปกติหรือในกรณีฉุกเฉิน
(2) ในกรณีที่มีความล้มเหลว การหยุดทำงาน หรือเรื่องอื่นในทำนองเดียวกัน เกิดขึ้นกับสิ่งอำนวยความสะดวกหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการให้บริการฯ ขัดข้อง ชำรุดเสียหาย หรือกรณีอื่นที่คล้ายกัน
(3) ในกรณีที่เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้งานการบริการโทรคมนาคมซึ่งดำเนินการโดยผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคม
(4) ในกรณีที่ความยุ่งยากในการให้บริการฯ เนื่องจากไฟดับ ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ข้อพิพาทแรงงาน หรือเหตุสุดวิสัยในรูปแบบอื่น
(5) ในกรณีที่มีสาเหตุเกี่ยวกับการดําเนินงานหรือสาเหตุทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับบริการฯ อย่างสมเหตุสมผล

2. บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือยุติการให้บริการฯ ทั้งหมดหรือบางส่วนโดยจะประกาศหรือแจ้งให้ลูกค้าทราบการเปลี่ยนแปลงหรือยุติการให้บริการฯดังกล่าว

3. ในกรณีที่บริษัทเห็นว่าข้อใดข้อนึงดังต่อไปนี้ เกิดขึ้นกับลูกค้า หรืออาจจะเกิดขึ้นกับลูกค้า บริษัทสามารถระงับการให้บริการฯ  โดยการระงับการใช้บริการฯ ของลูกค้าเป็นการชั่วคราวหรือยกเลิกสัญญาฯ ตามดุลยพินิจของบริษัทแต่เพียงผู้เดียวโดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบ
(1) ในกรณีที่ลูกค้าละเมิดข้อกำหนดในเอกสารฉบับนี้หรือข้อกำหนดการใช้งานบัญชีทางการ (LINE Official Account Terms of Use) 
(2) ในกรณีที่ลูกค้าใช้บริการฯ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
(3) ในกรณีที่บริษัทเชื่อว่ามีการขาดความน่าเชื่อถือเชื่อถือของลูกค้า รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กรณีที่ลูกค้าถูกฟ้องในคดีล้มละลาย หรือคดีฟื้นฟูกิจการ หรือลูกค้าได้ยื่นคำร้องเหล่านั้นเอง 
(4) ในกรณีที่ไม่สามารถติดต่อลูกค้าได้ด้วยสาเหตุที่ไม่ใช่ความผิดของบริษัท 
(5) ในกรณีที่ลูกค้าไม่เข้าสู่บัญชีของตนภายในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่กำหนดขึ้นโดยบริษัท 
(6) นอกเหนือจากกรณีที่ได้ระบุไว้ข้างต้น ในกรณีที่ลูกค้าได้ดำเนินการที่บริษัทเห็นว่าไม่เหมาะสม
(7) ในกรณีที่บุคคลอื่นที่ดูแลและ/หรือให้บริการตลาดแอปพลิเคชัน (Apps Market) ที่บริษัทใช้ ร้องขอให้บริษัทระงับการให้บริการทั้งหมดหรือบางส่วน

4. ในกรณีที่มีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นแก่ลูกค้าจากการระงับการใช้งาน การเปลี่ยนแปลง หรือการสิ้นสุดสัญญาฯ ดังกล่าว บริษัทจะไม่รับผิดชอบใด ๆ หรือคืนเงินจากกรณีดังกล่าวให้แก่ลูกค้าผู้นั้น

ข้อ 15. การเก็บรักษาข้อมูล
ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการเก็บรักษาข้อมูลที่เกิดจากการใช้บริการฯ ของตนเอง ตามที่กฎระเบียบ หรือกฎหมายที่ใช้บังคับกำหนดไว้

บริษัทจะไม่รับผิดชอบในการให้ข้อมูลใด ๆ ที่เก็บไว้เกี่ยวกับบริการฯ แก่ลูกค้าเมื่อมีการระงับการใช้งานหรือสิ้นสุดสัญญาฯ ยกเว้นในกรณีที่ลูกค้าขอให้นำข้อมูลกลับมาเมื่อมีการต่ออายุบริการฯ ภายใน 90 วันนับจากวันที่มีการระงับการใช้งานหรือสิ้นสุดสัญญาฯ

บริษัทขอสงวนสิทธิในการใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมเป็นข้อมูลสถิติสำหรับการวิเคราะห์ทางสถิติของบริษัท สำหรับการปรับปรุงแพลตฟอร์มและประสิทธิภาพของฟีเจอร์บริการของบริษัท และการวิเคราะห์เส้นทางการใช้งานเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้แพลตฟอร์มบริการของบริษัทหลังจากระยะเวลาการเก็บรักษาหมดอายุ

ช้อ 16. ความรับผิดชอบของลูกค้า
1. ในกรณีที่บุคคลอื่นใดๆ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง หน่วยงานทางราชการ) ได้มีการร้องเรียน เรียกร้อง หรือร้องขอให้ส่งข้อมูลหรืออื่นๆ หรือยื่นฟ้องคดี และอื่นๆ ต่อบริษัทเนื่องจากใช้บริการฯ โดยลูกค้า ลูกค้าดังกล่าวจะต้องตอบสนองต่อเรื่องดังกล่าวโดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นของตนเอง และรับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว และลูกค้าจะต้องไม่สร้างความยุ่งยากให้แก่บริษัทเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบต่อความรับผิดทางกฎหมายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการฯ โดยลูกค้า ซึ่งผู้บริหารจัดการและบุคลากรผู้ดำเนินการของบัญชีจะต้องรับผิดร่วมกันและแทนกันในเรื่องดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ลูกค้าตกลงว่าบริษัทจะไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับบุคคลอื่นใดๆ ซึ่งเกิดจากการใช้บริการฯ โดยลูกค้า 

2. หากลูกค้าละเมิดสิทธิใดๆ หรือก่อให้เกิดความเสียหายใด ต่อบุคคลอื่นโดยการฝ่าฝืนกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือละเมิดข้อกําหนดในเอกสารนี้ บริษัทอาจ (1) จํากัดหรือห้ามผู้บริหารจัดการและบุคลากรผู้ดำเนินการของบัญชี มิให้ใช้บริการฯ ต่อไปและ (2) ปฏิเสธคำขอใช้บริการฯ ของผู้บริหารจัดการและบุคลากรผู้ดำเนินการของบัญชีดังกล่าวโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าหรือชี้แจงเหตุผล 

3. ลูกค้าต้องชดใช้ความเสียหายใด ๆ (รวมถึงค่าทนายความที่เกิดขึ้น) ต่อบริษัทซึ่งเกิดจากการใช้บริการฯ ของลูกค้าโดยทันทีตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ   

ข้อ 17. การปฏิบัติตามกฎหมาย การสละสิทธิ การชดใช้ความเสียหาย และความรับผิด
1. ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และลูกค้าตกลงที่จะไม่ดําเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการฯ โดยขัดต่อกฎหมายที่ใช้บังคับ

2. ลูกค้าจะต้องชดใช้ค่าเสียหายและปกป้องบริษัท กรรมการ และพนักงานของบริษัทจากความสูญเสีย ค่าเสียหาย ค่าปรับ เบี้ยปรับ รายจ่ายและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับการใช้บริการฯ โดยละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ข้อกําหนดในเอกสารนี้ และ/หรือแนวทางการใช้งานบริการฯ

3. ลูกค้าตกลงว่าบริษัทจะสงวนสิทธิ์ในการระงับบริการฯ และ/หรือดําเนินการใดๆ เกี่ยวกับบริการฯ ตลอดจนการใช้บริการฯ ตามที่บริษัทเห็นสมควรโดยไม่ต้องได้รับความยินยอม /การตกลงล่วงหน้าจากลูกค้า และลูกค้าตกลงที่จะสละสิทธิ์ทั้งหมดในการเรียกร้องเอากับบริษัท  กรรมการ และพนักงานของบริษัท

4. บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่ลูกค้าได้รับอันเกิดขึ้นเนื่องจากการที่ลูกค้าใช้บริการฯ ตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต
อย่างไรก็ตาม กรณีเดียวกันนี้จะไม่นำมาใช้กับความเสียหายที่เกิดจากการกระทำผิดโดยเจตนา หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของบริษัท ซึ่งในกรณีดังกล่าว บริษัทจะรับผิดชอบในการชดเชยความเสียหายทั่วไปและความเสียหายโดยตรงที่เกิดขึ้นกับลูกค้าไม่เกินกว่าจำนวนค่าบริการฯ ทั้งหมดที่ลูกค้าชำระในเดือน หรือปีที่เกิดความเสียหายดังกล่าวแล้วแต่กรณี

ข้อ 18. การไม่รับประกัน
บริษัทไม่ให้การรับประกันไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายในประการที่เกี่ยวข้องกับการบริการฯว่าจะปราศจากความชำรุดบกพร่อง (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความชำรุดบกพร่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัย และเรื่องอื่น ๆ ข้อผิดพลาด จุดบกพร่อง (bugs) และการละเมิดสิทธิต่าง ๆ เป็นต้น) และไม่รับประกันถึงความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ประสิทธิภาพ และความเหมาะสมในการใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์โดยเฉพาะของการบริการฯ โดยไม่ว่าในกรณีใด ๆ ก็ตาม บริษัทไม่มีหน้าที่ต้องให้การบริการฯ หลังจากได้กำจัดความชำรุดบกพร่องดังกล่าวแล้วแก่ลูกค้า
บริษัทไม่รับประกันว่าฮาร์ดแวร์ บริการ และแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นซึ่งไม่ได้พัฒนาขึ้นโดยหรือภายใต้การควบคุมของบริษัทจะทํางานได้อย่างถูกต้องกับบริการฯ นี้ บริษัทปฏิเสธอย่างชัดแจ้งซึ่งความรับผิดใดๆ ในส่วนของความเกี่ยวข้องและการตอบโต้กับฮาร์ดแวร์ การบริการแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นดังกล่าว และไม่สามารถรับประกัน และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งซึ่งความรับผิดสำหรับการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความปลอดภัยของบุคคลอื่นข้างต้น

ข้อ 19. เงื่อนไขทั่วไป
แม้ว่าบทบัญญัติบางข้อของข้อกําหนดในเอกสารนี้จะปรากฏว่าไม่มีผลบังคับใช้ได้ตามกฎหมาย ข้อบังคับ และอื่นๆ เป็นต้น บทบัญญัติอื่นนอกเหนือจากบทบัญญัติที่ไม่มีผลบังคับใช้ดังกล่าวจะยังคงมีผลผูกพันต่อไปโดยสมบูรณ์ นอกจากนี้ บทบัญญัติส่วนที่ไม่มีผลบังคับใช้ดังกล่าวข้างต้นจะต้องได้รับการปรับปรุงภายในขอบเขตที่จำเป็นที่น้อยที่สุดเพื่อให้บทบัญญัตินั้นมีผลบังคับใช้ได้ และบทบัญญัตินั้นจะต้องถูกตีความในลักษณะที่สงวนไว้ซึ่งความประสงค์ ในผลทางกฎหมาย และทางเศรษฐศาสตร์ในขอบเขตที่สูงสุดที่สามารถกระทำได้
การที่บริษัทไม่ใช้สิทธิหรือบังคับสิทธิ หรือบังคับใช้ข้อกําหนดใด ๆ ของข้อกําหนดในเอกสารนี้จะไม่ถือเป็นการสละสิทธินั้น การสละสิทธิในการบังคับใช้บทบัญญัติใดของข้อกำหนดในเอกสารนี้จะมีผลเฉพาะเมื่อทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทลงนามกำกับไว้
เว้นแต่บริษัทจะได้ให้ความยินยอมแก่การดังกล่าว ลูกค้าจะต้องไม่โอนสิทธิและ/หรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อกําหนดในเอกสารนี้ บริการฯ หรือสถานะตามข้อกําหนดดังกล่าว ให้กับบุคคลอื่น หรือนำไปเป็นหลักประกันแก่บุคคลอื่น หรือดำเนินการให้บุคคลอื่นตกลงยอมรับสิทธิดังกล่าว ในกรณีที่บริษัทประสงค์ที่จะโอนบริการฯ ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่กลุ่มบริษัท หรือบริษัทต่างๆ ของบริษัท หรือบุคคลอื่น บริษัทสามารถโอนสถานะของบริษัทภายใต้ข้อตกลงในเรื่องดังกล่าว โดยการประกาศหรือแจ้งให้ลูกค้าทราบเรื่องดังกล่าว และลูกค้าให้ตกลงล่วงหน้ากับการดำเนินการดังกล่าว

ข้อ 20. ภาษา กฎหมายที่ใช้บังคับ และเขตอำนาจศาล
ข้อกำหนดในเอกสารฉบับนี้ให้ใช้บังคับกับลูกค้าผู้ที่บริษัทพิจารณาว่าประเทศไทยเป็นประเทศและภูมิภาคที่เกี่ยวข้องและในกรณีที่มีความขัดแย้งใดๆระหว่างข้อกำหนดนี้และข้อกำหนดในเอกสารฉบับนี้ที่บริษัทแปลเป็นภาษาใดๆ ให้ใช้บังคับตามต้นฉบับข้อกำหนดที่เป็นภาษาอังกฤษ ข้อกำหนดในเอกสารฉบับนี้ให้อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายของประเทศไทยโดยไม่คำนึงถึงหลักการขัดกันแห่งกฎหมาย โดยข้อพิพาทใด ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการบริการฯ ระหว่างบริษัทและลูกค้า ให้อยู่ภายใต้เขตอำนาจแต่เพียงผู้เดียวของศาลประเทศไทยที่มีอำนาจ เป็นศาลชั้นต้น


ประกาศใช้เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2563
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2566
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567